รีวิวหนัง ซีรี่ย์ VIU หนังดี หนังดัง ซีรี่ย์สนุกมากมาย

Day: June 22, 2023

INNOCENT DEFENDANT
ซีรี่ย์ ซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ย์แนวกฎหมาย ดราม่า ระทึกขวัญ รีวิวหนัง ซีรี่ย์ VIU ลึกลับ สืบสวน อาชญากรรม

รีวิวInnocent Defendant อัยการแดนประหาร (2017)

พลิกผันไปมาทั้งเรื่องแต่ไม่หักมุม  เล่นกับอารมณ์ผู้ชมด้วยความเหนือชั้นของบท  ชั้นเชิง  และการแสดงในระดับท็อปฟอร์มของสองนักแสดงนำ สมัยหนึ่งนั้นซีรีส์เกาหลีมักถูกมองว่ามีแต่งานรักโรแมนติกหวานเลี่ยนและดูไปบ่นไปก็คือหนึ่งในนั้นแม้ซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่ดูจะเป็นดราม่าปัญหาสังคม  แต่นั่นคือสายตาของการที่ยังไม่ได้สัมผัสงานจากเกาหลีจริงๆแล้วกลายเป็นอคติ  จนเมื่อผู้เขียนได้ดูกับซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่ซ่อนเงื่อน  หักเหลี่ยมเฉือนคม  ดูแบบใช้สมองสุดขีด  ผ่านบทชั้นยอดอย่าง Stranger โดยบังเอิญเพราะป่วยนอนโรงพยาบาลแล้วไม่มีอะไรดู  และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการมองซีรีส์เกาหลีในมุมใหม่ว่ายังมีแนวที่ชื่นชอบอยู่และหาดูแนวนั้นมาเรื่อยๆ  จนได้รู้ว่างานซีรีส์เกาหลีมีความหลากหลายและถึงพร้อมด้วยคุณภาพด้านบทและชั้นเชิง  เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ผู้เขียนเลื่อนผ่านไปมาร่ำไปจนกระทั่งกำลังจะถูกถอดออกจาก NETFLIX (ตอนนั้น) จึงรีบมาดู  แต่ความเยี่ยมของเรื่องนี้ก็ทำให้ใช้เวลาดูจบแค่สามวัน Innocent Defendant เปิดฉากมาที่การตามจับคนร้ายของอัยการพัคจองอู (จีซอง) ในงานศพที่เต็มไปด้วยสมาชิกแก๊งอันธพาล  หลังเลิกงานอัยการพัคก็กลับบ้านไปเป่าเค้กวันเกิดลูกสาว แต่เมื่อตื่นขึ้นมาอัยการพัคกลับตื่นมาในเรือนจำในฐานะนักโทษประหารด้วยคดีสังหารภรรยาและอำพรางศพลูกสาว  แต่อัยการพัคกลับสูญเสียความทรงจำส่วนนั้นไปด้วยกลไกทางสมอง และเรื่องก็เฉลยให้เห็นว่าต้นเหตุมาจากการที่ชามินโฮ (ออมกีจุน) ที่มีคดีฆาตกรรมแต่หลุดรอดไปได้และคนทำคดีก็คืออัยการพัคที่เป็นพวกกัดไม่ปล่อย  ถึงตรงนี้คืออัยการพัคถูกจัดฉากเป็นฆาตกรอย่างแนบเนียนจนทำให้อัยการคังจุนฮยอก (โอชางซอก) เพื่อนสนิทของอัยการพัคเสนอโทษประหารชีวิตพัคจองอูและศาลก็ตัดสินตามนั้น  จากอัยการจึงต้องกลายเป็นนักโทษประหาร  แต่เมื่อความทรงจำของพัคจองอูค่อยๆกลับมาทีละนิด  การกอบกู้ความทรงจำและการต่อสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมความแค้นก็เริ่มขึ้น เรื่องนี้คือความกล้าในการแหกกฎที่ยอดเยี่ยม (ตอนนั้น) ในการสลับไทม์ไลน์เพื่อหลอกล่อสมองและนั่นคือสิ่งที่เรียกว่าชั้นเชิง  และอีกสิ่งที่เป็นลายเซ็นมาตรฐานของงานจากเกาหลีคือการหักมุมแบบโหดๆ  การเล่าเรื่องที่ซ่อนเงื่อนเร้นปมอย่างมิดชิด  บทที่พาความคิดไปไกลก่อนลงท้ายเทกระจาด  และนั่นก็เรียกว่าชั้นเชิงด้วยบทที่ไม่ได้นับจากหนึ่ง  ไม่ได้เริ่มจากตรงกลาง  หรือไม่ได้เริ่มจากสุดท้ายแล้วย้อน  แต่กลายเป็นสลับไปสลับมาผ่านชิ้นส่วนความทรงจำ  แต่แม้เดี๋ยวนู่นโผล่มาเดี๋ยวนี่ผุดมากลับไม่งงเพราะความละเอียดปลีกย่อยที่แทบไม่ถูกละเลยหลงลืม  ด้วยเค้าโครงถ้าขีดเป็นเส้นตรงก็คือการถูกใส่ร้ายแล้วต้องทวงความยุติธรรมพร้อมกับกู้คืนความทรงจำและแก้แค้นของนักโทษผู้บริสุทธิ์  แต่การเล่าเรื่องกลับเป็นการตัดเส้นที่ขีดไว้เป็นชิ้นๆแล้วเรียงแบบสลับไปมา  ก่อนตั้งหน้าตั้งตาเร้าอารมณ์ผู้ชมเมื่อเวลาอันควรแต่ผู้ชมไม่งงก็คือความน่าทึ่ง การเปิดก่อนแล้วย้อนมาเฉลยครั้งแล้วครั้งเล่าที่ยังได้ผลทำให้ยังเป็นความน่าทึ่ง ส่วนการเล่าเรื่องที่ไม่ได้ปิดเร้นปมใดๆแต่กล้าที่จะเปิดหน้าออกมาว่ายังไงพระเอกก็บริสุทธิ์  แต่การเปิดหน้าออกมานั้นแน่นจนบางครั้งผู้ชมสงสัยทั้งที่เชื่อใจซึ่งมันยังเป็นความน่าทึ่ง  เกมซ่อนกลที่ถูกวางไว้ว่าเป็น A Perfect Murders ที่ละเอียดแล้วค่อยๆแกะออกมาส่งเสริมความเร้าใจและระทึกก็ยังคงเป็นความน่าทึ่ง  รวมไปถึงการมีเรื่องของ Catch Me If You Can ที่ท้าทายเพราะไม่ได้ซ่อนตัวร้ายให้เดาแต่เปิดกันตรงๆเน้นที่การหักเหลี่ยมเฉือนคมกันมันยิ่งน่าทึ่ง  ผู้ชมรู้ทั้งรู้ว่าเรื่องจะไปลงเอยแบบไหนแต่ลุ้นระทึกทุกรายละเอียดก็น่าทึ่ง  แต่ทุกความน่าทึ่งที่เอ่ยมาอยู่ในบทที่สุดลงตัวและการเดินตามเจตนาอย่างเคร่งครัดทำให้เร้าใจตั้งแต่ต้นจนจบ  แต่บนความน่าทึ่งทั้งหมดก็มีรู้สึกว่าพยายามบีบมากเกินไปในบางช่วง  ทำให้กังขาบ้างว่าทำไมไม่เลือกวิธีที่ง่ายกว่าแต่ถ้ามองข้ามไปได้ก็โอเค สิ่งหนึ่งที่ยากคือการวางมิติของตัวเอกให้ผู้ชมให้รู้สึกเชื่อใจแต่ลึกๆก็ยังสงสัย ซึ่งมันต่างจากรู้สึกสงสัยแต่ลึกๆยังเชื่อใจเพราะการวางมิติของตัวละครให้เป็น God ปะทะ Evil ซึ่งเส้นแบ่งถูกขีดไว้ชัดทำให้ในใจผู้ชมเชื่อว่าพระเอกถูกใส่ร้าย  แต่ลึกๆยังสงสัยว่าเขาได้ทำอะไรสักอย่างในกระบวนการนั้นหรือไม่  อีกอย่างที่ได้ใจคือการวางมิติของพระเอกให้เป็นการสู้แบบจนตรอกเพราะอยู่ในเรือนจำที่ไม่มีประตูสู้จึงกอบโกยทั้งอารมณ์ร่วมและความเห็นใจ  […]

Read More