ในหนังแนวไซไฟ (Sci Fi) หลายเรื่องมักมีการกล่าวถึงทฤษฎี “โลกคู่ขนาน” อยู่บ่อยครั้ง ในตอนนี้เราก็ยังไม่สามารถสรุปได้หรอกว่า อันที่จริงแล้วโลกคู่ขนานมันมีอยู่จริงหรือไม่ แต่สำหรับผมแล้วแรงผลักที่ทำให้เกิดนิยาย หนัง ซีรี่ส์ เรื่องโลกคู่ขนาน คงไม่ใช่ความเป็น ไซไฟ ของมันเพียงอย่างเดียว แต่คงเพราะลึก ๆ แล้วคนเราคงอยากรู้ว่า หากวันนั้น ครั้งนั้น “เรา” ที่อยู่ในตอนนั้น ตัดสินใจเลือกทางเดินที่ต่างออกไป “เรา” ในตอนนี้จะมีชีวิตเป็นอย่างไรกัน
อีแจซัง (Rain) ทนายความมือหนึ่งของสำนักงานทนายความยุลแกก เขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อชนะคดี ไม่ว่าจะใช้วิธีนอกกฎหมายหรือต้องทำลายชีวิตใครก็ตาม แต่การเป็นคนแบบนี้ก็ทำให้เขากลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ราชีอน (Lim Ji-Yeon) ตำรวจหญิงรักความยุติธรรมที่เกลียดเขาเข้าไส้ แต่ไม่ว่า ชีอน จะลงไม้ลงมือหรือทำอะไรกับทนายอีก็ตาม เขาก็ไม่เคยเอาเรื่องเอาราวอะไรกับเธอเลย เพราะในอดีตทั้งสองคนเคยมีความหลังต่อกันมาก่อน
กระทั่งเกิดคดีการหายตัวไปของ ยองจู พนักงานของ ซอกมยองฮวาน แห่งฮงอูกรุ๊ป พ่อของจำเลยคดีล่าสุดที่ ราชีอน และเพื่อนร่วมทีมเพิ่งพ่ายแพ้ ให้กับ อีแจซัง ในศาลไม่นานมานี้ เธอเลยชักสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาและพยายามสืบหาข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ชีอน พยายามโน้มน้าวขอความช่วยเหลือจาก อีแจซัง จนเขายอมใจอ่อน แต่กลายเป็นว่า อีแจซังเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงจนถูกหมายหัวเอาชีวิต ร่ายกายของเขาตกอยู่ในภาวะโคม่า แต่ทว่าจิตของ อีแจซัง กลับเดินทางไปยังอีกโลกคู่ขนาน โลกที่เขาไม่ใช่ทนายแต่กลายเป็นอัยการอีแจซัง สามีของ ราชีอน และพ่อของลูกสาวแสนซน โลกที่มีความสุข ทำให้ได้รู้จักกับคำว่า “ครอบครัว” ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ส่วนดราม่าฝั่งพระเอก อีแจซัง เอาจริงพล็อตของซีรี่ส์เรื่องนี้ หลายคนคงคุ้นตาผ่านหนังเนื้อหาทำนองนี้มาบ้าง ที่ผมเห็นว่าใกล้เคียงสุดคงจะเป็นหนังเกาหลีเรื่อง Wonderful Nightmare (2015) ที่เนื้อหาเป็นเรื่องราวของทนายความหญิง ที่ทำทุกอย่างเพื่อชนะคดี แล้ววันหนึ่งก็เกิดอุบัติเหตุกับเธอจนเสียชีวิต แต่เธอก็ได้โอกาสเป็นครั้งที่สอง ด้วยการกลับมาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีมีลูกแล้ว เพื่อเรียนรู้ความหมายของคำว่า “ครอบครัว” เพียงแต่ใน Welcome 2 Life (2019) แม้ซีรี่ส์จะทำให้อีแจซังเข้าใจความหมายของชีวิต ของคำว่าครอบครัวมากขึ้น แต่ด้วยความที่ซีรี่ส์ไม่ได้ปูพื้นหลังตัวละครนี้มาก่อน แล้วก็ไม่ได้ขยายปมสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นทนายที่เห็นแก่ตัว ดราม่าของ อีแจซัง เลยกลายเป็นว่า แม้เราจะเข้าใจในประเด็นที่ซีรี่ส์พยายามสื่อถึง แต่มันก็ยังไม่ได้ลึกซึ้งสัมผัสความรู้สึกคนดูมากเท่าไรนัก อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าซีรี่ส์ดูจะให้น้ำหนัก การสืบสวนและปมของ ราชีอน มากกว่า
การดำเนินเรื่องของซีรี่ส์ถือว่าทำได้น่าติดตามเลยล่ะ ดำเนินเรื่องด้วยการให้ อีแจซัง ใช้ชีวิตในโลกคู่ขนานอยู่นานพอสมควร ก่อนจะพาเขากลับมาอยู่ในโลกใบเดิม ที่ความน่าสนุก น่าติดตาม คือ ความคล้ายกันของเหตุการณ์ในโลกคู่ขนาน แต่มันไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว คนดูอย่างเราเลยได้ลุ้นว่า แต่ละเหตุการณ์ที่ผ่านไปที่ อีแจซัง คิดว่าตัวเองรู้ความลับล่วงหน้า ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมามันอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนที่เขาคิดก็ได้ทั้งนั้น
อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คนดูได้ลุ้น สนุก ก็คือ เรื่องราวระหว่าง อีแจซังกับราชีอน ด้วยความที่ซีรี่ส์ดำเนินเรื่องครึ่งหนึ่งในโลกคู่ขนาน ซึ่งทั้งสองตัวละครกลายมาเป็นคู่สามีภรรยาที่มีลูกน่ารักด้วยกัน มันทำให้คนดูเกิดความผูกพันกับความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ เพราะแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆแต่พวกเขาก็ผ่านอะไรมาด้วยกันไม่น้อย แต่พอกลับมาอยู่ในโลกใบเดิม ราชีอน นั้นเกลียด อีแจซัง เข้ากระดูก แถมยังมีรุ่นพี่ตำรวจอย่าง กูดงเทค (Kwak Si-Yang) ผู้แสนดี มดแดงแฝงพวงมะม่วง ผู้ชายที่คอยอยู่ข้างๆเธอเสมอเข้ามาเป็นตัวแปร
ด้านการขับเคี่ยวกันระหว่างฝ่ายตัวละครเอกและตัวร้ายก็ทำได้สนุก เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องของการขับเคี่ยวกัน ในเชิงกฎหมายและการใช้อิทธิพลเหนือกฎหมายแล้ว คดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นยังเป็นเรื่องฆาตกรรมต่อเนื่อง ซึ่งซีรี่ส์เองก็ถือว่าเก็บซ่อนความลับของตัวเองได้ดี แม้จะไม่ถึงกับว่าเฉลยออกมาแล้วเหนือความคาดหมาย แต่ถือว่าการเชื่อมโยงเหตุผลและตัวละครต่าง ๆ ทำออกมาได้ดีบทดูน่าเชื่อถือ ไม่ลมเพลมพัด
ซีรี่ส์สอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับครอบครัวเข้ามาด้วย สะท้อนผลของการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ที่พ่อกับแม่แสดงออกให้ลูกเห็นอย่างไร ลูกก็จะสืบทอดเก็บเอาสิ่งนั้นไปใช้เช่นกัน เหมือนกับลูกของประธานจางดูชิก (Son Byung-Ho) ที่เห็นพ่อทำร้ายร่างกายแม่เมื่อลูกชายทำผิด ถึงวันหนึ่งเขาก็นำความรุนแรงที่ว่าไปใช้กับเพื่อนในโรงเรียน เช่นเดียวกับตัวละครที่เป็นฆาตกรหลักของเรื่อง เขาเองก็ถูกกระทำจากคนในครอบครัว ทั้งโดนทำร้ายร่างกายและทำร้ายจิตใจด้วยการถูกใช้เป็นเครื่องมือ เช่นกัน
หรือประโยคหนึ่งที่ อีแจซัง พูดเตือนสติบางตัวละคร ว่า “ไม่กลัวลูกของตัวเองจะเลวเหมือนตัวเองหรือยังไง” เมื่อถึงบทสรุปของบางตัวละคร มันเลยยิ่งสะท้อนให้เห็นชัดถึงความสำคัญของครอบครัว ที่ลูกเป็นเหมือนเงาสะท้อนของพ่อแม่นั่นแหละ เลี้ยงมาให้ดี (ส่วนใหญ่ล่ะมั้ง) ก็ดี เลี้ยงมาไม่ดีก็คงไม่พ้นที่จะเหลวแหลกแน่นอน
สรุปแล้ว Welcome 2 Life (2019) เป็นซีรี่ส์กฎหมาย สืบสวน เหนือธรรมชาติ ที่ถือว่าอยู่ในมาตรฐานความบันเทิง ของซีรี่ส์แนวเดียวกันนี้ของเกาหลีเขาล่ะ พาทดราม่าย่อยง่าย สื่อสารชัดเจนในประเด็นที่นำเสนอ พาทสืบสวนก็สนุก น่าติดตาม ยิ่งอปป้าเรนในช่วงหลังก็ไม่ได้มีผลงานออกมาบ่อย ๆ หากใครคิดถึงพ่อหนุ่มเรนก็ถือว่าซีรี่ส์ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดีทีเดียว