สวัสดีอีกครั้งค่า ไม่คิดว่าจะได้เขียน รีวิว+ชวนคุย กับซากึกเกาหลีเรื่องที่สองเร็วขนาดนี้ แต่หลังจากที่ดูตอนสุดท้ายที่สุดจะตับไตพังไปก็อดที่จะคันมือไม่ได้ วันนี้จะมาชวนคุยเรื่อง The Red Sleeve (2021) ซากึกย้อนยุคที่เรทติ้งตอนจบสูงถึง 17.4% ถึงเรื่องจะเป็นเมโลดราม่า แต่แอบมีขำขันเบาๆ หลายช่วงก็น้ำตาไหลพรากเป็นสายเลือดเหมือนกัน อยากแนะนำอีกสักเรื่อง จนได้ออกมาเป็นบทความนี้ค่ะ
- ข้อมูล
- The Red Sleeve (2021)
- ชื่ออื่นๆ :The Red Sleeve Cuff , Red End of Clothing Sleeve
- ชื่อเกาหลี :옷소매 붉은 끝동
- แนว : ย้อนยุค เมโลดราม่า โรแมนติก
- จำนวน :17 ตอน / ตอนละประมาณ 60 นาที
- ผู้กำกับ : จองจีอิน
- คนเขียนบท : คังมีคัง , จองแฮรี
- นักแสดง :อีจุนโฮ อีเซยอง คังฮุน
- ช่องทางรับชม :MBS / VIU
- เล่าแบบย่อ
ซองด็อกอิม (อีเซยอง) เข้าวังมาเป็นนางในฝึกหัดตั้งแต่เด็ก ด้วยความเฉลียวฉลาด กล้าพูดกล้าแสดงจึงได้รับความเอ็นดูจากซังกุงสูงสุดเป็นอันมาก เธอได้รับหน้าที่ดูแลห้องหนังสือของ รัชทายาทอีซาน (อีจุนโฮ) จนบังเอิญได้รู้จักกับรัชทายาทโดยไม่รู้ตำแหน่งที่แท้จริง แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดของด็อกอิม ทำให้เธอได้ช่วยชีวิตรัชทายาทไว้หลายต่อหลายครั้ง แม้ความรักได้ก่อเกิด แต่เธอไม่อยากขึ้นเป็นสนม เธอต้องการรักษาโลกของเธอไว้ ให้ห่างไกลจากความวุ่นวายในการช่วงชิงอำนาจ
- ใครเป็นใครในเรื่อง
ซองด็อกอิม รับบทโดย อีเซยอง
เด็กสาวที่เข้ามาเป็นนางในตั้งแต่เด็ก มีอดีตเกี่ยวข้องกับรัชทายาทองค์ก่อน พ่อของรัชทายาทอีซานองค์ปัจจุบัน จิตใจดี เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ เคยช่วยเหลือรัชทายาทอีซานตั้งแต่เด็กๆ ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
อีซาน / พระเจ้าจองโจ รับบทโดย อีจุนโฮ
รัชทายาทอีซาน บุตรชายของรัชทายาทองค์ก่อนที่สิ้นพระชนม์ เติบโตมาด้วยบาดแผลในใจพร้อมๆ กับความรักของปู่ กษัตริย์องค์ปัจจุบัน ต้องการความสมบูรณ์แบบและกดดันตัวเองตลอดเวลาเพื่อเป็นกษัตริย์ที่ดีพอ
ฮงด็อกโร รับบทโดย คังฮุน
อาจารย์ขององค์ชายรัชทายาท คนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน ภักดีต่อรัชทายาทอีซาน โด่งดังในหมู่นางใน แต่มีความเจ้าเล่ห์ สนใจแต่ผลลัพธ์ไม่สนวิธีการ
พระเจ้ายองโจ รับบทโดย อีด็อกฮวา
กษัตริย์องค์ปัจจุบัน เสียลูกชายรัชทายาทองค์ก่อนไปส่งผลให้รักหลานชาย อีซานมาก ลึกๆ มีจิตใจดี แต่มีปมในใจเรื่องชาติกำเนิดของตน หวั่นไหวง่าย
- ดูแล้วเล่าว่า
ซีรีส์ย้อนยุค ที่หยิบเอาเรื่องจริงมาขยี้เป็นเมโลดราม่าหนักๆ แบบนี้ไม่ได้เห็นมาสักพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ ตอนแรกก็ลังเลที่จะดูเพราะไม่ได้สายนี้เท่าไร แต่พอได้ดูแล้วรู้สึกถึงความหนักแน่นแต่เต็มไปด้วยความกลมกล่อม ทั้งความคอมเมดี้เล็กๆ แทรกมาให้อบอุ่น ถึงจะรักถึงจะมีความสุขก็ยังอบอวลไปด้วยความเศร้าซึม แม้กระทั่งท้ายสุดของเรื่องยังทำให้เราหัวเราะทั้งน้ำตาตามได้เลย คาดไม่ถึงจริงๆค่ะ ว่าจะได้สนุกและอินขนาดนี้ เลยอยากจะแนะนำเต็มๆ ในบทความนี้
เรื่องเล่าให้เห็นความเจ็บปวดของรัชทายาทอีซานตั้งแต่เด็กๆ ตัดสลับกับชีวิตเด็กสาวนางในที่เฉลียวฉลาด เติบโตท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดีในวัง ส่วนตัวชอบเลิฟไลน์ของเรื่องนี้นะ บทไม่ได้เทไปที่ความรักจนเยอะเกินไป หลายฉากนึกว่าจะต้องมีบทหวาน แต่แหะ… เดาผิดเฉย เรื่องโฟกัสเรื่องความพยายามของอีซานเป็นหลัก โดยคำนึงถึงความมีเหตุมีผล ทำให้การกระทำของนางเอกที่เป็นการช่วยเหลือเป็นแรงส่งอย่างดีมากๆ เลยค่ะ
พอเรื่องมีการเล่าสลับกับทาง ด็อกอิม ที่เป็นนางในทำให้เห็นชีวิตของเหล่านางในอีกมุมหนึ่งค่ะ ที่ไม่ใช่แค่ทำงาน มีทั้งชีวิตส่วนตัว การอยู่รอด เทศกาล งานรื่นเริงต่างๆ มิตรภาพของเหล่านางใน รวมถึง สมาคมลับฉบับนางใน ที่สามารถกุมอำนาจ เปลี่ยนขั้วทางการเมือง ชักใยอยู่เบื้องหลังหลายๆ เหตุการณ์ อย่างจุดนี้ก็คิดว่าคนลิขิตจะมีมากกว่าโชคชะตาอีกนะคะ
เรื่องหยิบประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงช่วงพระเจ้ายองโจกับรัชทายาทซานโดมาเล่น ผ่านมุมมองพระเอก ที่โดนกดดันมาตั้งแต่เล็กๆ บาดแผลเรื่องระหว่างปู่ กับพ่อแท้ๆ ของตนเองที่สิ้นไปเป็นตราบาป จุดนี้ถ้าไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน ต้นเรื่องอาจจะงงแบบเรานิดหน่อย แต่ดูๆ ไปก็จะเข้าใจมากขึ้นค่ะ ทำให้เราไปค้นข้อมูลจริงๆ มาอ่านเลยค่ะ มันทั้งแสนเศร้าและงดงามในขณะเดียวกัน
เมื่อรักสิ่งใดมาก ก็มักจะหวาดกลัวมากเช่นเดียวกัน ประโยคนี้อยากยกให้ทั้งความรักของพระนางของเรื่อง และ ความรักของพระเจ้ายองโจ ที่มีต่อรัชทายาทอีซาน หลานชายคนเดียว ที่รักมากเกินไป จนกลัวที่จะกลายเป็นเหมือนกับลูกชายของตนเอง ในมุมของด็อกอิม เรามองว่าจะเป็นในรูปแบบที่กลัวจะสูญเสียตัวตนและทุกอย่างๆ รวมถึงความรักนี้ไปด้วย ถ้าหากยอมขึ้นเป็นสนม วันหนึ่งก็คงไม่เหลืออะไร สำหรับเธอคือไม่ได้อะไรเลยและต้องเสียทุกอย่าง ต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวท่ามกลางความแก่งแย่ง ไม่ว่าจะความรักแบบไหน บอกเลยว่าบทเรื่องนี้ขยี้ถึงใจจนน้ำตาแตกไปหลายรอบเลยค่ะ
ตัวละครที่อยากพูดถึง
อีซาน / พระเจ้าจองโจ
ความกดดันและแผลในจิตใจของอีซานมีตั้งแต่เล็กๆ (ตั้งแต่พบกับนางเอกครั้งแรก) ฝ่ายหนึ่งคือปู่ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ ฝ่ายหนึ่งคือพ่อแท้ๆ ที่ให้กำเนิด บาดแผลที่ลึกเกินคนทั่วไปที่จะรับไหว อีกทั้งการเมืองในวัง ชิงอำนาจ วังหน้าวังหลัง การยื่นมือมาช่วยของนางกำนัลตัวเล็กๆ ที่คิดอยากจะปกป้องเขา ตอนแรกเขาอาจจะเยาะเย้ยว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง แต่พอเวลาผ่านไป การช่วยเหลือครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็เริ่มยึดเกราะอันสวยงามนี้ไว้แน่น เป็นเหมือนที่พักพิงทางจิตใจ คำตอบของด็อกอิมในแต่ละครั้งเลยทำให้เจ็บปวดรวดร้าว แต่แตกสลายไม่ได้เพราะตำแหน่งและบ้านเมือง เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่เจ็บปวดที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้
ฮงด็อกโร
ฮงด็อกโร เป็นตัวละครประเภทที่ภักดีแต่ไม่ภักใจ เชื่อฟังแต่ไม่(สามารถ)เชื่อใจได้ ค่อนข้างเป็นมิติที่แปลกใหม่พอสมควร เพราะนอกจากจะพูดได้ว่าเป็นฝ่ายดีได้เต็มปากแล้ว เขามีความอันตรายสูงซ่อนอยู่ใต้ท่าทางที่หล่อเหลา สูงส่งงดงาม ความเลือดเย็นไม่สนวิธีการ ไร้คุณธรรม ไร้เมตตาไม่ว่ากับใครหน้าไหน คนแบบนี้น่ากลัวกว่าตัวร้ายเรื่องไหนๆ เลยค่ะ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะร้าย หรือตอนนี้ร้ายแล้ว สับขาหลอกที่น่ากลัวจนกระทั่งถึงจุดสุดท้ายของตัวละครนี้
- เหล่านักแสดงและงานเบื้องหลัง
อีจุนโฮ ขอโทษจากใจ… ช่วงแรกๆ ดูยังติดภาพ ซอยุล ผอ.ฝ่ายการเงินใน Good Manager อยู่เลยค่ะ 5555555 พอมาในบทนี้ปรับตัวแทบไม่ทัน แต่พอได้แสดงฝีมือฟาดฟันกับอีด็อกฮวาเท่านั้นแหละ ต้องขอยืนลุกขึ้นตบมือดังๆ ยิ่งในช่วงท้ายๆ ทั้งก่อนและหลังที่ขึ้นเป็นพระเจ้าจองโจ นอกจากจะน้ำตาแตกแล้วยังขนลุกกับการแสดงของเขามากๆเลยค่ะ ใจจะขาดตามไม่ว่าตอนไหน เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่พิสูจน์ฝีมือได้อย่างดีเลยค่ะ
อีเซยอง รู้ตัวอีกทีก็ดูเหมือนว่าจะตามเก็บงานของนางเอกคนนี้หลายเรื่องเลย ตั้งแต่ Doctor John , Kairos , The Crowned Clown สามเรื่องนี้ขึ้นหิ้งเลยค่ะ ไว้มีโอกาสจะมาชวนคุย พอมาเจอในบทซองด็อกอิมก็หลงรักเข้าเต็มๆ ถ้าเทียบกับสามเรื่องแรก ด็อกอิมจะมีชีวิตชีวามากกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เคยดู ( อย่างน้อยก็ในช่วงต้นๆ ) เพราะช่วงท้ายออกจะรันทด เป็นนางเอกที่เรียกว่าไม่ต้องมีน้ำตาให้มากก็สัมผัสถึงความเศร้าแล้ว ยิ่งซีนร้องไห้น้ำตาหยดเป็นสายคือสวยไปหมด ยิ่งดูยิ่งเศร้าจับใจ เรื่องนี้ถือว่าได้พัฒนาไปอีกแบบค่ะ สื่ออารมณ์ได้ทั้งอ่อนหวานและเจ็บปวดไปพร้อมกัน
ภาพรวม ไม่ต้องบอกอะไรมากกับซีรีส์เรื่องนี้ เพราะจากงาน MBC Drama Awards 2021 ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเหมาๆ กวาดไปถึง 8 รางวัลเลยค่ะ ได้แก่
- รางวัลซีรีส์แห่งปี
- นักเขียนบทยอดเยี่ยม (จางแฮรี)
- รางวัล Best Couple (อีจุนโฮ – อีเซยอง)
- รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม สาขามินิซีรีส์ (อีจุนโฮ )
- และนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม สาขามินิซีรีส์ ( อีเซยอง)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (คิมซอนยอง)
- นักแสดงหน้าใหม่ชายยอดเยี่ยม (คังฮุน)
- รางวัลLifetime Achievement Award (อีด็อกฮวา)
สมกับที่เป็นเจ้าของรางวัลซีรีส์แห่งปีของ MBS แน่นอนว่างานเบี้องหลังละเอียดมากกกกก ชุด ฉาก หน้าผม ไม่มากไม่น้อยเกินไป สวยงามพอเหมาะพอดี ทั้ง vibe และ mood and tone ก็กล่อมกลมไปหมด ฉากหวาน น่ารัก เครียด จริงจังมันดูดีไปหมดจริงๆค่ะ ถึงแม้เรื่องจะไม่ได้มีฉากออกรบยิ่งใหญ่ แต่พอบวกกับเนื้อเรื่อง และนักแสดง 6 รางวัลคุณภาพการันตี ดูยิ่งใหญ่ สมจริงสมจังไปทั้งหมด งาน cinematic กับแสงก็เด่นไม่แพ้กันจนอดชมไประหว่างดูไม่ได้
- สรุป – ปักหมุดขาย คะแนน 8/10
ถ้าหาซากึกประวัติศาสตร์ น้ำตาไหลพรากกับความรักและชะตากรรม (แนะนำให้เตรียมโอ่งไว้รองน้ำตา) กลมกล่อม สวยงามขนาดกำลังดี 17 ตอนจบ นางเอกฉลาด พระเอกคลั่งรักแต่รักบ้านเมืองมากกว่าก็จะชอบเรื่องนี้แน่ๆ แต่ส่วนฟินจิกหมอนอาจจะต้องรอหน่อย ไปหนักเอาท้าย พร้อมๆ กับตับไตพัง จุกอกแตกตายไปข้างแน่นอนค่ะ สมกับการรอคอย ฮ่าาา ถ้าคาดหวังอะไรแบบนั้นเยอะๆ อาจจะต้องเผื่อใจ ถึงฝ่าบาทคลั่งรัก แต่ก็รักโซซอนมากด้วย
แต่โดยรวมยังไงก็แนะนำค่ะ เป็นซีรีส์ที่กล่อมกลมมากที่สุดของช่วงนี้เลย หวังว่าใครที่ลังเลอยู่ ผ่านมาอ่านบทความนี้แล้วจะกดดูนะคะ แนะนำปักหมุดอีกเรื่องค่ะ <3< p>