รีวิวซีรี่ย์ The Good Detective
ถ้าความจริงเป็นประโยชน์ให้คนร้ายคุณจะเลือกเงียบหรือไม่” ในซีรีส์ตำรวจสืบสวนเข้มๆที่เดินหน้าขึงขังแต่ลงท้ายด้วยความประนีประนอม เหตุผลหนึ่งที่ดูไปบ่นไปไม่สามารถปล่อยวางจากการดูซีรีส์หรือละครเกาหลีได้คือความหลากหลาย แม้ในความหลากหลายนั้นอาจมีพื้นฐานที่ไม่ต่างกันนักหากลองพินิจให้ลึก แต่ทุกครั้งที่มีข้อสงสัยแบบนี้ผู้เขียนมักจะมีคำตอบเสมอมาที่ท่านคงได้ผ่านตาบ่อยๆว่าต่อให้โครงสร้างพื้นฐานจะเหมือนเอาของเก่ามาเล่าซ้ำ แต่เกาหลีจะมีดีคือการเอาของเก่าเหล่านั้นมาตัดแต่งเติมหรือมองมุมใหม่ทำให้ไม่ดูเป็นความจำเจ หรือหากท่านเปิดใจดูกระทั่งหากท่านได้ดูแล้วก็ลองรำลึกถึงซีรีส์ที่ขายความเข้มข้นอย่าง Bad Guys (2014) ,Signal (2016) , Tunnel (2017) , Voice (2017) , Stranger (2017) หรือจะเน้นเอามันส์อย่าง Vagabond (2019) ที่เรื่องเหล่านี้คือระดับแนวหน้าสำหรับงานขายความเข้มข้นของเกาหลีในช่วงหลังที่ยืนหนึ่งในใจคนดูมากมายไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ซึ่งหากลองพินิจให้ดีโครงสร้างหลักของเรื่องแทบเป็นเรื่องเดียวกันแต่บิดบริบทไป และเหตุผลที่ทำให้คนดูถ้าไม่ดูแบบเอาเรื่องแบบผู้เขียนจะคิดไม่ถึง (ซึ่งความจริงก็ไม่ควรคิดเพราะเอาความสุขในการดูเป็นที่ตั้งจะดีกว่า) คือบทละครที่แข็งแรง ประเด็นต่างๆมากมายแต่เก็บรายละเอียดได้หมดตัวบทที่มีความเป็นมนุษย์ประกอบกับมาตรฐานการแสดงสูง ร่วมด้วยชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ถ้ามองอย่างเป็นธรรมแล้วงานจากเกาหลีมีมาตรฐานที่ค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้มันก็ไม่ได้ไปถึงในระดับที่ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่างานจากที่ไหนก็มีทั้งยอดเยี่ยม ธรรมดาๆ และแย่เพียงแต่เกาหลีหาที่แย่ๆไม่ค่อยมี (หรือผู้เขียนเลือกก็ไม่ทราบ) เช่นเรื่องนี้ที่ผู้ดูอย่างสนุกน่าติดตามแต่ยังมีบางอย่างขาดนู่นนิดนี่หน่อยแต่เท่าที่มีและเป็นก็สนุกเข้มข้นแม้จะไม่ถึงขนาดทำใจปิดไม่ลงก็ตาม The Good Detective เรื่องย่อ เปิดเรื่องมาด้วยคดีฆาตกรรมแล้วอำพรางศพนักศึกษาหญิงและมีการจับคนร้ายได้ที่คนดูมองตาก็รู้ว่าเขาคือแพะชื่อว่าอีแดชอล (โจแจยุน) เขาต้องทิ้งลูกสาวคือไว้เพียงลำพังและต้องโทษประหารชีวิต ห้าปีผ่านไปสายสืบที่จับกุมอีแดชอลคือสายสืบคังโดชาง (ซอนฮยอนจู) ที่ไม่ได้เลื่อนขั้นมานานก็ได้คู่หูคนใหม่เป็นสายสืบหนุ่มโอจีฮยอก (จางซึงโจ) แล้วทั้งคู่ได้รับทำคดีแรกคือการหายตัวไปของหญิงสาวและอาจกลายเป็นการฆาตกรรม และเมื่อสืบไปเรื่อยๆเบาะแสกลับชี้นำไปสู่คดีเก่าเมื่อห้าปีก่อนของอีแดชอลที่กำลังจะถูกประหารชีวิต หนำซ้ำคดีนี้เหมือนจะต้องการประกาศให้โลกรู้ว่าอีแดชอลคือผู้บริสุทธิ์จนไปกระตุ้นความทรงจำและกระตุกต่อมมโนธรรมของคังโดชางที่ทำคดีอีแดชอลเมื่ออดีต แล้วการได้รับรู้ว่าลูกสาวอีแดชอลต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากคังโดชางจึงต้องร่วมมือกับคู่หูที่ไม่ค่อยเข้ากันโอจีฮยอกโดยมีนักข่าวสาวไฟแรงอย่างจินซอกยอง(อาลิยาห์ อี) ที่ขุดคุ้ยเรื่องโทษประหารแล้วมาคาบเกี่ยวกับคดีของอีแดชอล จนเมื่อสืบไปเรื่อยๆทิศทางคดีก็ชี้ไปหาลูกพี่ลูกน้องของโอจีฮยอกคือโอจองแท(โอจองเซ) ที่มีทั้งอำนาจเงินและอิทธิพล และการต้องการเผยความจริงครั้งนี้ก็พัวพันกับคนระดับสูงมากมายพวกเขาจึงต้องต่อสู้กับอำนาจมืดของความฉ้อฉลของระบบยุติธรรม แต่เมื่อมโนธรรมมันต้องมีในจิตสำนึกคังโดชางและโอจีฮยอกจึงต้องดับเครื่องชน เข้มข้น ชั้นเชิงการเล่าเรื่องมีพลัง แต่กลับไม่กล้าเล่นใหญ่ และหาทางออกแบบประนีประนอม นี่คืองานซีรีส์ตำรวจคู่หูที่มาตามสูตรเป๊ะหนึ่งจอมเก๋ามากประสบการณ์กับอีกหนึ่งหนุ่มไฟแรงที่ตัวเรื่องมีความเข้มข้นพอเพราะบทละครดีพอ การวางเงื่อนปมต่างๆสอดคล้องกับเรื่องราวหลักที่เล่าได้ดีพอ ด้วยความฉลาดของบทที่วางออกเป็นสองส่วนคือส่วนของการพยายามเปิดเผยความจริงในคดีของอีแดชอลเพื่อช่วยเขาให้พ้นจากโทษประหาร ผ่านการขุดมโนธรรมในใจของคังโดชางและการต่อสู้กับอิทธิพลมืดของอำนาจเงินและความฉ้อฉลของกระบวนการในครึ่งแรก และเมื่อสิ้นสุดบทก็เลือกเผยฆาตกรตัวจริงแล้วมาในแนว “จับให้ได้ถ้านายแน่จริง” ที่มาเน้นถึงปมในใจของโอจีฮยอกและการขุดมโนธรรมและจรรยาบรรณของนักข่าว และที่ได้ผลดีคือการเปิดหน้าผู้ร้ายแล้วเน้นการเอาล่อเอาเถิดและลูกล่อลูกชนในการสืบสวนเพื่อจับให้มั่นคั้นให้ตายในครึ่งหลัง แม้ความยากของการสืบคดีทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมก็จริงแต่ที่หายไปคืออารมณ์อับจนหนทาง ด้วยความที่เรื่องเปิดมาแรงจัดด้วยการเล่นประเด็นความฉ้อฉลในระดับสูงของผู้ถือกฎหมายพัวพันไปถึงระดับนโยบาย ทำให้การคาดเดาของคนดูไปสู่เรื่องใหญ่ที่น่าจะเล่นระดับโครงสร้างง้างกับระบบ แต่เรื่องกลับค่อยๆแผ่วลงมาเล่นในระดับบุคคลทำให้เมื่อถึงบทสรุปกลายเป็นการประนีประนอมกับระบบที่เน่าในนั้น ปฏิเสธได้ยากว่าเจตนาของเรื่องบิดเบี้ยวไปในตอนท้ายเมื่อคนที่น่าจะถูกลงโทษบางคนกลับไม่ได้รับโทษแต่เลือกให้อภัยและแสดงความมีนโนธรรมในใจออกมาแบบง่ายเกินไป จึงส่งผลให้เป้าหมายหลังเป้าหมายในประเด็นข้างหลังในเรื่องของการทุจริตอิทธิพลมืดทั้งเรื่องเงินหรืออำนาจของการเขียน การบิดเบือน และการชี้นำของสื่ออ่อนพลังที่แม้สัมผัสได้แต่ก็ไม่ได้ใจ ที่สำคัญอีกอย่างคือเมื่อเป็นคดีที่สืบต้องสืบหาตัวฆาตกรหรือผู้ร้ายตัวจริงแบบนี้ การสืบคดียาวๆแบบนี้อาจทำให้ผู้คนดูสึกอ่อนล้าในการลุ้น ซ้ำบทยังใจร้ายไม่ให้รางวัลกับคนดูระหว่างทางที่เข้าใจว่าต้องการปูหาความสาแกใจในบทสรุป […]
Read More