รีวิวหนัง ซีรี่ย์ VIU หนังดี หนังดัง ซีรี่ย์สนุกมากมาย

เรื่องย่อหนัง Narcos Mexico (2018)

Narcos Mexico

ผู้สร้างก็ขอหาเรื่องราวใหม่แต่เป็นยุคสมัยที่มีความซ้อนทับกันคือการขนส่ง Marijuana ข้ามชายแดนเม็กซิโกมายังสหรัฐในสมัยรัฐบาล Ronald Reagan อันมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองที่มาเกี่ยวโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ

โดยคราวนี้เราจะได้ติดตาม กิกิ กามาเรนา (Michael Penya) เจ้าหน้าที่ปราบปราม “drugs” ชั้นผู้น้อยชาวฮิสแปนิกที่ย้ายมาประจำเม็กซิโก กับภารกิจโค่น ฟีลิกซ์ กัลลาร์โด (Diego Luna)

Narcos Mexico

ตำรวจกังฉินที่ร่วมมือกับ ราฟาเอล (Tenoch Huerta)ชาวไร่สายเขียวพัฒนา “new grade hemp” และวางแผนสร้างเครือข่ายธุรกิจส่งออกกัญชาไปยังสหรัฐอเมริกาโดยอาศัยช่องทางการ Corruption ของเจ้าหน้าที่รัฐ งานนี้ กิกิ จะขวางทาง Felix สำเร็จหรือไม่ต้องติดตาม

Netflix's 'Narcos: Mexico' renewed for Season 3, Wagner Moura to direct  multiple episodes

ว่ากันตามตรงเลยคงต้องบอกว่า “Narcos Mexico” ยึดการดำเนินเรื่องแบบเดียว “Narcos 3” ซีซันแบบเป๊ะๆ ทั้งการให้ข้อมูล “Documentary” ที่น่าสนใจโดยปนความคิดเห็นของคนเขียนบทเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวที่เป็นเรื่องแต่งเข้ากับประวัติศาสตร์การเมืองที่ U.S.

เคยมีเอี่ยวกับการแทรกแซงกิจการภายในประเทศแถบ south America ได้อย่างแนบเนียน แต่ในทางกลับกันใครที่อยากหาความบันเทิงจากซีรีส์โดยหวังว่ามันจะ Explosive action ระเบ้อก็อาจผิดหวังได้ เพราะซีรีส์แต่ละตอนเลือกบอกเล่าเรื่องราวแบบละเอียดปูหมดกระทั่งว่า Felix ต้องติดต่อใครบ้างกว่าจะได้เส้นสายในการขนส่งกัญชาจนบางทีหาก Body ไม่พร้อมนี่มีหลับคาจอได้เลย

Narcos Mexico

ปูเรื่องครอบครัวและ add points สงสารด้วยฉากโดนตำรวจดูถูกในตอนเปิดเรื่อง ส่วนผู้ร้ายอย่าง Felix ก็มุ่งแต่จะค้ายาโดยไม่สนเครื่องแบบและหน้าที่ police แม้แต่น้อย ซึ่งทำให้เสน่ห์แบบ Narcos ที่ตัวละครทั้ง “2 parties”

มีความเป็นสีเทาไม่มีใครดีหรือ the worst เลยถูกลดทอนลงอย่างน่าเสียดาย โดยยังคงไว้ซึ่ง action scene ที่มีความโหดแต่เพิ่มระดับความ annihilated มากขึ้นและแถมสาวๆสวยๆที่พร้อมโชว์เรือนร่างเป็นอาหารตาหนุ่มๆเหมือนเดิม

ว่ากันถึง actor ที่คราวนี้หนังใช้ดารา “American descent” ใต้คนดังทั้ง ไมเคิล เพนยา จาก “Antman” และ ดิเอโก ลูนา จาก รูจ วัน เอ สตาร์ วอร์ส สตอรี่ ซึ่งก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี “about one”

เพียงแต่สถานะดาราของพวกเขา หลายครั้งก็ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังดู Fiction มากกว่าเรื่องราวเชิงสารคดีหรือ สารคดี แบบ นาร์โคส ทั้ง 3 ซีซันไปอย่างน่าเสียดายในภาพรวมถือว่ายังคงสานต่อเรื่องราว Historical ได้อย่างน่าสนใจแต่อาจไม่ได้เหมาะกับคนที่ต้องการหา

ตัวอย่าง