นางฟ้านักยกน้ำหนัก คิมบ๊กจู (2017) “ทุกสิ่งในโลกมีราคาที่ต้องจ่าย ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น” สนุก และดูสบาย
ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นคนชอบดูกีฬาเลยทำให้กลายเป็นชอบดูหนังกีฬาไปโดยปริยาย และที่ผ่านมาก็ได้ผ่านตาหนังกีฬามาไม่น้อยมีดีมีแย่คละเคล้าก็ว่ากันไป และมันคือที่มาของการตัดสินใจดูงานซีรีส์เรื่องนี้ที่ว่ากันตามตรงคือตอนที่ตัดสินใจดูตอนนั้น ผู้เขียนยังไม่พร้อมที่จะทรมานสังขารดูซีรีส์หนักๆที่ต้องอดหลับอดนอนหรือเรื่องที่ต้องติดตามกันอย่างไม่ขาดตอน จึงลองจิ้มเลือกงานดูแล้วน่าจะออกโทนเบาสมองอีกและเป็นซีรีส์ดราม่ากีฬาดีๆ ที่ว่ากันที่การสร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อความเป็นเลิศเชิงกีฬา
แต่ทว่าผู้เขียนก็โดนเบื้องหน้าของความเป็นเกาหลีเล่นงานตามเคยเพราะคาดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นตามหน้าเสื่อ แต่กลายเป็นเรื่องราวดราม่าของชีวิตนักกีฬาที่มีราคาที่ต้องจ่ายมีอะไรต้องแลกเพื่อผลักดันตัวเอง แม้ในส่วนของดราม่าการฟันฝ่าการฝึกซ้อมที่โหดหินเพื่อนเป็นหนึ่งในการแข่งขันจะเบาบาง แต่ประเด็นหลักในเรื่องของกว่าจะมาเป็นมือหนึ่งต้องแลกกับอะไรมากมายนั้นแข็งแรงมาก และที่แน่ๆเสน่ห์ของนักแสดงมีส่วนช่วยยกระดับให้งานซีรีส์สีชมพูเรื่องนี้มีดีกว่าที่เป็นWeightlifting Fairy Kim Bok-Joo
เรื่องย่อ
เรื่องของคิมบ๊กจู (อีซองคยอง)นักกีฬายกน้ำหนักสาวดาวรุ่งหน้าตาบ้องแบ๊วแก้มป่องและสูงชะลูด เธอคือนักศึกษาภาควิชายกน้ำหนักในระดับมหาวิทยาลัย เธอมีเพื่อนสนิทสองคนที่ตัวติดกันเป็นแก๊งสามช่าคืออีซอนอ๊ก (อีจูยอง) กับ จุงนันฮี (โชฮเยซอง) ที่เป็นเหมือนผู้คอยสนับสนุนเธอเมื่อเธอต้องถูกล้อเลียนจากนักยิมนาสติกหุ่นสวยเพรียว ขณะเดียวกันก็มีจองจุนฮยอง (นัมจูฮยอก) หนุ่มนักกีฬาว่ายน้ารูปหล่อใจละลายมาพัวพัน ซึ่งจองจุนฮยองคือคนที่มีความสามารถเชิงกีฬาแต่ว่ามีปัญหาทางใจเมื่อเขามักจะตื่นเต้นในการแข่งขันจนถูกตัดสิทธิ์บ่อยๆ และกลายเป็นว่าเธอกับเขาคือเพื่อนที่เคยเรียนโรงเรียนประถมมาด้วยกัน
กระทั่งวันหนึ่งบ๊กจูที่อยู่ในวัยสาวเต็มตัวต้องหัวใจเต้นแรงเมื่อมีหมอหนุ่มรูปหล่อมากางร่มให้ในวันฝนตก และโลกมันก็กลมเหลือเกินเมื่อหมอคนนั้นคือพี่ชายของจุนฮยองบ๊กจูจึงไปเข้าคอร์สลดน้ำหนักกับคุณหมอรูปหล่อ แต่เมื่อเป็นนักกีฬายกน้ำหนักที่ต้องสวาปามอาหารเพื่อสร้างพลังมันดันไปย้อนแย้งกับการลดน้ำหนักเพื่อเจอหน้าหมอ เรื่องราวจึงบานปลายลุกลามไปยังโค้ชและครอบครัว และในขณะที่บ๊กจูกำลังมีความรักก็ยังมีหนึ่งคนที่รับรู้โดยบังเอิญและพยายามสนับสนุน เก็บเป็นความลับให้และหวังดีต่อบ๊กจูอย่างไม่มีเงื่อนไข คนคนนั้นก็คือจุนฮยอง
และเรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเมื่อการเสแสร้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจให้เธอหันมา กลั่นแกล้ง ล้อเลียน และทำตัวสนิทสนมจนออกนอกหน้าของจุนฮยองที่มีต่อบ๊กจูมันคือการที่เขาไม่รู้ใจตัวเองว่า แอบชอบนางฟ้านักยกน้ำหนักคนนี้ที่เขาพยายามคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทเสมอมา และเรื่องราวก็เล่าผ่านชีวิตที่ต้องแลกกับความเป็นเลิศทางด้านกีฬาของบ๊กจูที่มีปัจจัยมากระทบมากมาย ทั้งเรื่องหัวใจ เรื่องครอบครัว แต่การเล่าเรื่องในโทนไม่ซีเรียสใสๆโลกสวยและเป็นสีชมพูก็ทำให้งานออกมาน่าดูไปอีกแบบ และที่ได้ใจผู้ชมอย่างยิ่งคือเสน่ห์ของนักแสดงที่จัดจ้านเหลือกำลัง
กล้าแหวกแนวด้วยการทิ้งส่วนของการล่าฝันมาเป็นการต้องแลกระหว่างชีวิตกับชีวิตที่อยู่อีกด้าน
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าจากหน้าเสื่อที่มองว่านี่คืองานดราม่ากีฬา ที่มักเล่าเรื่องของการฝึกฝนและฝ่าฟันความหนักหน่วงของการฝึกซ้อม เพื่อบรรลุฝันของการเป็นนักกีฬาตามแบบที่งานเกี่ยวกับกีฬาพึงเป็น แต่เมื่อดูไปกลับกลายเป็นการเล่าเรื่องของชีวิตนักกีฬาพรสวรรค์ที่ฟ้าประทานให้เป็นนักกีฬาชั้นเลิศ ส่วนของอุปสรรคและการฝ่าฟันตามสูตรถูกตีตกไป แต่สิ่งที่ทดแทนมาคือการเล่าถึงราคาที่ต้องจ่าย สิ่งที่ต้องแลกกับชีวิตการเป็นนักกีฬาผ่านมุมมองของนักกีฬาดาวรุ่ง ผู้เป็นความหวังของคนทั้งประเทศอย่างคิมบ๊กจูตามชื่อเรื่อง
ดังนั้นแกนหลักคือการเล่าเรื่องชีวิตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเป็นหญิงสาวที่เป็นนักกีฬาของเธอ ผ่านความเป็นคิมบ๊กจูที่ต้องเจอกับปัจจัยมากระทบมากมาย ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้ก็นับเป็นไอเดียที่ดูแปลกแต่ดีไปอีกแบบ เมื่อมันคือการฉีกจากแนวที่ผู้ชมคิดและคาดหวัง เพราะการเล่าเรื่องแบบนี้ผ่านการเป็นงานที่เล่าเรื่องกีฬามีน้อยมาก น้อยจนนึกไม่ออก เรื่องที่เสนอมุมของชีวิตส่วนตัวของนักกีฬาในช่วงเปลี่ยนผ่านและปัจจัยมากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตามขนบเดิมจนแทบจะเรียกว่าเป็นสูตรสำเร็จ แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องมีคนกล้าแหวกบ้าง
และสำหรับเรื่องนี้เป็นผลลัพธ์ที่ดีใช้ได้ ด้วยการเลือกที่จะลงลึกไปยังสิ่งที่นักกีฬาต้องเสียไปในการใช้ชีวิตนักกีฬา สภาวะจิตใจเมื่อชนะหรือแพ้ ความเป็นมนุษย์ปุถุชนที่นักกีฬาก็ยังต้องมี แล้วเล่าเรื่องโทนเบาๆให้ได้ยิ้มได้หัวเราะ ใส่ความโรแมนติกล้ำหน้ามานิดหน่อย ดราม่ามาพอท้วมๆ ที่เหลือคือเรื่องราวระหว่างทางตามที่บทตั้งใจไว้คือพิสูจน์ความแข็งแกร่งทางจิตใจของคิมบ๊กจู เมื่อนักกีฬาที่มีวินัยมาทั้งชีวิตต้องเผชิญกับความต้องการการใช้ชีวิตเฉกเช่นคนธรรมดา ความเบื่อหน่ายในสิ่งที่ตนเป็นและการยอมรับในสิ่งที่ตนเป็นเช่นกัน
และแม้บทโดยรวมจะไม่ถึงขนาดเนี้ยบไร้ที่ติ ยังมีตัวละครบางตัว เรื่องราวบางประการ ปมประเด็นที่ปูมาแล้วหาย หรือแม้กระทั่งการหาทางออกง่ายๆ แต่ถ้ามองอย่างเป็นธรรมคือตัวบทไม่ได้ตั้งใจหรือพยายามจะไปจุดนั้นอยู่แล้ว แค่เล่าเรื่องให้สนุกผ่านการก้าวข้ามอุปสรรคทางใจของคิมบ๊กจู และเล่าด้วยความน่ารักสดใสสีชมพูจัดจ้านให้บันเทิงแล้วมันได้ผล นั่นก็เพียงพอให้ซีรีส์เรื่องนี้มีดีอยู่ในตัวเองเพราะถึงยังไงบทสรุปมันจบลงตามสูตร แต่สิ่งที่ผู้ชมได้รับคือรอยยิ้มที่มีตลอดทั้งเรื่องในทุกตอน อารมณ์ขมที่คอ ตื้นตัน ขอบตาอุ่นบ้าง นั่นก็เพียงพอแล้ว
เมื่อบทเลือกที่จะเล่าเรื่องของคิมบ๊กจูตามชื่อเรื่อง บทจึงต้องวางน้ำหนักแทบทั้งหมดมาลงที่ตัวละครคิมบ๊กจู ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ใช่นักกีฬาแม้จะเล่นได้บ้างแบบพอไปวัดไปวาก็พอรู้มาบ้างจากการติดตามดูกีฬาว่า นักกีฬาชั้นยอดทุกคนมีราคาที่ต้องจ่ายและต้องทุ่มทั้งชีวิตแลกกับความเป็นเลิศ ยิ่งเรื่องนี้เล่าเรื่องของดาวรุ่งผู้เป็นความหวังของชนชาติด้วยแล้ว บทจึงวางคิมบ๊กจูให้เป็นเด็กที่น่าจะมีปมแต่ก็ไม่ เนื่องเพราะเธอถูกดูแลมาโดยพ่อผู้เป็นอดีตนักกีฬาที่เคยผ่านชีวิตแบบนี้มาก่อน พ่อเองจึงทราบดีว่าการทำตามใจตัวเองในบางเรื่องจะนำพาความเสียใจมาคราวหลัง
แต่บ๊กจูคือคนที่อยู่กับกีฬายกน้ำหนักมาตั้งแต่เด็ก อยู่กับฝุ่นชอล์กและลูกเหล็กมาทั้งชีวิตวัยเด็กและวัยรุ่นของบ๊กจูจึงแตกต่างจากคนทั่วไป หากแต่บ๊กจูยังโชคดีที่สิ่งนั้นมันคือสิ่งที่เธอรักและเธอก็ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากพ่อที่เป็นดั่งสายลมใต้ปีก แต่เธอเองก็ยังมีความเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่มีชีวิตจิตใจเพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ยังเป็นผู้หญิง เมื่อมีอะไรมากระทบให้หัวใจเต้นรัวเธอหวั่นไหวได้และมันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งที่ตามมาคือการปะทะกันระหว่างชีวิตกับวินัยแถมด้วยอาการอกหักรักคุด มันเลยทำให้เธอเป๋ออกนอกทางของการเป็นนักกีฬา
แต่คนที่เข้าใจบ๊กจูที่สุดก็ไม่พ้นพ่อเองที่แม้จะมองได้ว่าพ่อเอาความหวังให้ลูกแบก แต่จะมีใครรู้จักและรู้ใจลูกเท่ากับพ่อที่เลี้ยงลูกมาเพียงลำพัง สิ่งที่พ่อทำได้คือปล่อยให้บ๊กจูได้ออกไปจากทางที่เธอเคยเดินสักพักให้ได้คิดทบทวนได้รู้จักตัวเอง และเมื่อความรักในกีฬายกน้ำหนักมันยังเข้มในใจเธอก็จะกลับมาสู่เส้นทางของตัวเอง ซึ่งมันคือศิลปะในการเข้าใจและสนับสนุนของผู้อยู่เบื้องหลังที่ดี เมื่อต้านไม่ได้ก็ต้องปล่อยและคอยดูอยู่ห่างๆ สนับสนุนอยู่ไกลๆเพราะถึงที่สุดลูกก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนเป็นลูกอย่างบ๊กจูที่ชีวิตไม่เคยได้สัมผัสพบเจอในสิ่งที่เด็กสาวรุ่นเธอทั่วๆไปเป็น แต่นั่นมันก็คือเส้นแบ่งระหว่างนักกีฬาธรรมดากับยอดนักกีฬาหรือไม่
ความเป็นคิมบ๊กจูคือนักยกน้ำหนักที่รูปร่างสูงใหญ่ และมันก็คล้ายกับเป็นปมด้อยของตนเมื่อมองในมุมของความเป็นหญิงสาว เมื่อมีความรักก็พยายามที่จะเป็นคนอื่นหากแต่มันคือการโกหกตัวเองและมันนำมาซึ่งความเจ็บปวด? แต่บ๊กจูยังมีหนึ่งคนที่รับรู้และยอมรับในความเป็นคิมบ๊กจูเสมอมานั้นคือจองจุนฮยอง แม้จุดเริ่มต้นจุนฮยองจะไม่รู้ใจตนเองเหมือนกันแต่อย่างน้อยเขาก็ยังเข้าใจและยอมรับในความเป็นคิมบ๊กจู และอาจเป็นเพราะเขาเป็นนักกีฬาความรู้สึกและการยอมรับมันจึงเกิดขึ้นโดยง่าย และเมื่อเขารู้ใจตนเองจุนฮยองก็ไม่ลังเลที่จะทำเพื่อบ๊กจูในทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้เธอมีความสุข
ในขณะที่จุนฮยองยอมรับในความเป็นคิมบ๊กจูเขายังต้องยอมรับในความเป็นตัวเองที่มีรอยแผลในอดีตที่แม่ทิ้งไป และแม้จะถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจากลุงและป้าแต่ความคิดคำนึงมันไม่เคยเลือนหาย และกลายเป็นแผลบาดลึกที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจให้เขาไปได้ไม่ไกลในเส้นทางนักว่ายน้ำ สิ่งที่จุนฮยองทำได้คือยอมรับและเข้ารับการบำบัดทางจิตซึ่งมันคือความยากมากที่มนุษย์สักคนจะยอมรับด้วยตัวเอง แต่จุนฮยองกลับกล้าที่จะทำเพราะเขามีแรงบันดาลใจนั่นก็คือบ๊กจู แม้เริ่มแรกเขาจะไม่รู้ใจตัวเองแต่บทก็ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนรักอะไรเพราะผู้ชมสัมผัสได้แล้วว่าในใจเขามีอะไรข้างใน
สุดท้ายเมื่อตัวจุนฮยองเองต้องเจอกับมรสุมลูกใหญ่ ก็เป็นฝ่ายบ๊กจูบ้างที่ต้องเป็นสายลมใต้ปีกให้กับเขาและดึงจุนฮยองกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น แล้วคนสองคนก็ลงเอยกันแบบสมใจผู้ชม แต่ความแข็งแรงของเรื่องมันอยู่ที่ประเด็นที่บทต้องการสื่อคือราคาที่ต้องจ่ายของนักกีฬา ทั้งตัวบ๊กจูหรือจุนฮยองและแม้กระทั่งซงชีโฮ (คยองซูจิน) ที่มีราคาที่ต้องจ่ายสูงลิบลิ่ว และสิ่งที่ส่งเสริมให้งานชิ้นนี้มีดีและสนุกคือการนำเสนอในโทนน่ารัก ขบขัน โลกสวย โทนของภาพออกมาสดใส มีความรักโรแมนติก มีดราม่ามาให้อบอุ่นตื้นตันระหว่างทาง มันทำให้งานที่ไม่ได้กระชากใจรุนแรงมากมายเรื่องนี้ดูสนุกและมีความน่าติดตามในระดับที่ดีพอตัว
การแสดงดูสดใสที่มีเสน่ห์และน่ารัก
สำหรับเรื่องนี้คือข้อพิสูจน์ว่าการคัดตัวนักแสดงของทางเกาหลีมาตรฐานสูงมาก ด้วยเหตุที่เรื่องราวเล่าถึงชีวิตที่ต้องผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของนักกีฬายกน้ำหนักอย่างคิมบ๊กจูคนที่จะมารับบทคิมบ๊กจูต้องอยู่ในระดับที่เป๊ะ แล้วด้วยความที่ต้องการขายเรื่องของคิมบ๊กจูมีคิมบ๊กจูเป็นแกนกลาง เป็นนางเอกที่ต้องกุมหัวใจผู้ชมการแสดงต้องเชื่อได้ และอีซองคยองคือส่วนที่ดีที่สุดของเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย อีซองคยองแบกเรื่องไว้บนบ่าแทบทั้งหมดผ่านการแสดงที่เป๊ะมาก ในบทนักยกน้ำหนักที่ผู้ชมเชื่ออย่างหมดใจว่าเธอคือนักกีฬาตัวจริง
ยิ่งการแสดงออกทางภาษากายในแบบรั่วๆ โก๊ะๆ เด๋อๆ ตามแบบฉบับของคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างคนทั่วไปยิ่งสร้างตัวละครให้ผู้ชมตกหลุมรัก การแสดงทางสีหน้าแววตาที่คิดง่ายๆว่าคนสวยทำหน้าไม่สวยให้ผู้ชมเชื่อได้ก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้ว การแสดงของอีซองคยองคือส่วนที่ส่งเสริมให้เรื่องนี้มีความน่าติดตามมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนึกยังไงยังนึกไม่ออกว่าจะมีใครรูปร่างสูงชะลูดแล้วหน้าตาน่ารักตาสวยใสแบบนี้อีก อาจกล่าวได้ว่าคงไม่มีใครเหมาะกับบทไปกว่านี้แล้ว
ส่วนนัมจูฮยอกในบทจุนฮยองที่มิติตัวละครลึกพอตัวหากแต่เมื่อต้องโชว์ของก็ปาเข้าไปช่วงท้ายๆ และต้องยอมรับกลายๆว่าช่วงต้นเขาถูกอีซองคยองบดบังรัศมีไปอย่างช่วยไม่ได้เพราะจะว่าไปนี่คือเรื่องของคิมบ๊กจูส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็คือเครื่องเคียงชั้นดีเท่านั้น รวมไปถึงพระเอกที่ต้องยอมถูกนางเอกบดบังบ้างตามบทและอีซองคยองแสดงได้ใจผู้ชมมาก จนไม่มีทางเลยที่ผู้ชมที่ได้ชมแล้วจะไม่หลงรักตัวละครคิมบ๊กจู และมันเลยกลายเป็นว่านักแสดงสมทบที่ถ้าว่ากันตามจริงทุกคนมีสีสันและช่วยส่งเรื่องให้สนุกขึ้น แต่อย่างที่ชื่อเรื่องบอกแล้วว่าเรื่องนี้คือเรื่องของคิมบ๊กจู มันก็ต้องเป็นคิมบ๊กจูที่โดดเด่นอยู่แล้ว
นี่คืองานซีรีส์ที่ดูสบายเรื่องหนึ่งแม้ว่าจากข้อมูลแล้วนี่คือบทที่มีแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง นักกีฬาตัวจริงคนที่มีตัวตนจริงๆแต่สามารถเล่าเรื่องให้ไม่หนักมาก โรแมนติกไม่ล้นแม้จะมีให้เห็นมากกว่า มีดราม่าพอประมาณ แต่สิ่งที่เป็นคือความแข็งแรงในประเด็นที่จะสื่อเรื่องราคาที่ต้องจ่าย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรือได้มาฟรีๆ ส่วนความสนุกมันมาจากการแสดงที่น่ารักของอีซองคยองที่เป๊ะกว่านี้คงไม่มีแล้ว
การแสดงของเธอช่วยส่งเสริมให้เรื่องที่เล่าด้วยโทนสดใสโลกสวย งานด้านภาพที่เน้นสีชมพูมีอารมณ์ขบขันเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอด แม้จะไม่ถึงขนาดระเบิดความฮาออกมาเกินเบอร์ และสิ่งที่ผู้เขียนชอบมากคือความไม่พยายามเร่งอารมณ์ซึ่งผู้ชมบางคนอาจคิดไปว่ามันราบเรียบ แม้ว่าความจริงประเด็นบางอย่างเรื่องบางเรื่องถ้าจะบีบก็บีบได้แต่บทก็หลีกเลี่ยงไป แต่ผู้เขียนกลับมองว่าเพราะมันคือความจริง มันคือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นจริง และด้วยความที่เรื่องเล่ามาด้วยอารมณ์แบบที่เป็นถ้าใส่ความเร่งหรือบีบคั้นเข้าไปอาจกลายเป็นเสียเรื่องมากกว่า
และที่เห็นที่เป็นอยู่มันก็คือความเป็นงานที่ดูสบาย ผ่อนคลายและสนุกไปได้เรื่อยๆแม้อาจไม่ใช่งานที่เนี้ยบนัก แต่กระนั้นก็ไม่ใช่งานหยาบๆหรือลวกๆ แม้จะมีบ้างบางเรื่องที่ดูรั่วและละเลย โดดๆ ลอยๆ แต่ทุกอย่างก็ถูกมองข้ามไปด้วยเสน่ห์ของนักแสดงทั้งหมดที่ทุกคนล้วนมีสีสัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเอกนางเอกที่มีเสน่ห์ แม้โดยภาพรวมแล้วเป็นนางเอกที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาไป แต่นั่นมันก็ต้องเป็นไปตามนั้นเพราะนี่คือการเล่าเรื่องราวของเธอทีต้องการให้ผู้ชมตกหลุมรักนางฟ้านักยกน้ำหนักหมดใจ