รักษาไข้ใจกันอีกครั้งกับ Poong, The Joseon Psychiatrist 2 ซีรีส์ย้อนยุคการแพทย์ที่ฝากความประทับใจเอาไว้มากมาย คิมมินแจ พร้อมด้วยแก๊งโรงหมอทั้ง คิมฮยางกี และ คิมซังกยอง กลับมาสานต่อภารกิจรักษาผู้ป่วยที่ยังคั่งค้างในภาคที่แล้ว พร้อมกับเผชิญหน้ากับเกมการเมืองในวังหลวง อันเป็นมรสุมระลอกใหญ่ที่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมากขึ้นกว่าเดิม
เรื่องย่อ
Poong, The Joseon Psychiatrist 2 ร้อยต่อเรื่องราวของ ยูเซยอบ (รับบทโดย คิมมินแจ) หัวหน้าหมอฝั่งเข็มแห่งราชสำนักผู้ถูกใส่ร้ายจนต้องเนรเทศออกจากเมืองหลวงฮันยาง เขาเร่ร่อนจนได้พักอาศัยอยู่ที่โรงหมอในหมู่บ้านโซรัค จากความช่วยเหลือของแพทย์นอกรีตอย่าง กเยจีฮัน (รับบทโดย คิมซังกยอง) ทั้งยังได้พบรักกับลูกสาวขุนนางผู้สูงศักดิ์อย่าง ซออึนอู (รับบทโดย คิมฮยางกี) แม้ยูเซยอบจะสูญเสียความสามารถในการฝังเข็มไปชั่วคราว ทว่าเขาได้ใช้ชีวิตในฐานะ ยูเซพุง จิตแพทย์ที่เก่งกาจที่สุดแห่งโชซอน ดูหนัง 4K
แม้สุดท้ายแล้วยูเซพุงจะพิสูจน์ความจริงที่ถูกใส่ร้ายได้สำเร็จ แต่ยังคงเลือกทำหน้าที่รักษาชาวบ้านอยู่ที่โรงหมอกเยซูต่อไป กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องกลับเข้าสู่วังหลวงอีกครั้ง เมื่อพระราชาเริ่มประชวรหนักจากการมองเห็นภาพหลอนจนพลานามัยทรุดโทรม รวมไปถึงเหล่านางในที่มีอาการคล้ายคลึงกัน ยูเซพุงพร้อมทั้งสมาชิกโรงหมอจึงได้ร่วมมือกันคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าวอย่างสุดกำลัง แม้จะถูกต่อต้านจากสำนักหมอหลวงอย่างหนักก็ตาม ภารกิจครั้งนี้อาจนำพาพวกเขาไปพบกับความลับที่ใครบางคนกำลังวางแผนเพื่อยึดครองอำนาจอยู่ก็เป็นได้
บทบาทนักแสดง
- คิมมินแจ รับบทเป็น ยูเซยอบ/ยูเซพุง หมอฝังเข็มจากเมืองหลวงที่ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ ทว่ากลับถูกเนรเทศให้ออกจากวังหลวงเนื่องจากถูกใส่ร้าย ระหว่างหกเหินพเนจรไปยังหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ เขาได้เรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของการเป็นแพทย์ พร้อมช่วยรักษาคนป่วยไข้ทั้งร่างกายและจิตใจในฐานะ จิตแพทย์แห่งโชซอน
- คิมฮยางกี รับบทเป็น ซออึนอู บุตรสาวตระกูลขุนนางที่สนใจในวิชาการแพทย์และพิสูจน์ศพ เธอกลายเป็นม่ายหลังสามีเสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย ทั้งยังเผชิญกับการถูกตราหน้าจนคิดฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายเธอได้เรียนรู้ทักษะฝังเข็มจากยูเซพุงและอุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ
- คิมซังกยอง รับบทเป็น กเยจีฮัน อดีตหมอหลวงผู้ถูกใส่ร้ายจนกลายเป็นแพทย์นอกรีตเจ้าของ คลินิกกเยซู เขาใช้วิชาฝังเข็มและความรู้เรื่องสมุนไพรในการดูแลชาวบ้าน โดยมีกฎเกณฑ์สำคัญคือการเรียกเก็บเงินเฉพาะคนรวยเพื่อใช้เป็นทุนหาซื้อยามารักษาคนจน
Poong, The Joseon Psychiatrist 2 ซีรีส์ย้อนยุคการแพทย์จาก tvN วางแผนออกอากาศทั้งหมด 10 ตอน โดยดัดแปลงจากนวนิยายชื่อดังของ นักเขียนอีอึนโซ สู่การสร้างสรรค์บทโทรทัศน์ของทีมนักเขียนมือใหม่อย่าง อีบมชเวมินโฮ และพัคซึลกิ ภายใต้การควบคุมการผลิตของ ผู้กำกับพัควอนกุก เจ้าของผลงานซากึกชื่อดังอย่าง Ruler: Master of the Mask (2017) ที่ยังคงสานต่อความสนุกเฉกเช่นที่เราได้สัมผัสในภาคแรก ใครยังไม่เคยดูสามารถคลิกอ่านรีวิวด้านบนเป็นแนวทางก่อนได้เลย ส่วนเรื่องราวในภาคต่อนี้จะเป็นอย่างไร ประเด็นใดน่าสนใจ ขออาสามารีวิวเป็นไกด์ให้เช่นเคย
ต้อนรับการกลับมาของหมอพุง ด้วยภารกิจดูแลไข้ใจที่ยุ่งเหยิงมากกว่าเดิม
Poong, The Joseon Psychiatrist 2 ยึดมั่นในแก่นเรื่องที่แข็งแรงอันว่าด้วยเรื่องราวของ จิตแพทย์ยุคโชซอน พาผู้ชมไปสำรวจโรคและอาการบาดเจ็บที่เกิดจากความรู้สึกภายใน เพื่อตอกย้ำว่าไม่มียาใดที่ได้ผลเท่ากับการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ป่วยให้เข้าที่เข้าทาง ตามที่เราได้เห็นว่าแม้หมอพุงจะสูญเสียความสามารถในการฝังเข็มไป ทว่าเขากลับได้เรียนรู้ถึงการค้นหาต้นตอแท้จริงที่ทำให้ผู้คนเจ็บป่วยไม่สบาย บ้างก็ถูกคนในครอบครัวทำร้ายจนเป็นทุกข์ บ้างก็สูญเสียคนรักจนตรอมใจคิดฆ่าตัวตาย แน่นอนว่าประเด็นเหล่านี้ยังคงเป็นสิ่งที่เราจะได้เห็นกันต่อไปจนถึงบทสรุป
มากไปกว่านั้นภารกิจของหมอพุงดูจะหนักหนาสาหัสขึ้นกว่าเดิม นอกจากรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตแล้ว เขายังต้องรับมือกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นในวังหลวง ตอนแรกที่ผ่านไปซีรีส์นำเสนอเหตุการณ์ที่ผู้คนต่างมีอาการประหลาดจากการเห็นผี โจแทฮัก (รับบทโดย ยูซองจู) ขุนนางกบฏที่กินยาพิษฆ่าตัวตายเมื่อภาคที่แล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งพระราชาที่ประชวรด้วยสาเหตุเดียวกัน นี่จึงเป็นปมใหญ่ที่ทำให้ยูเซพุงต้องเข้ามาแก้ไขโดยเร่งด่วน เพราะอาจมีใครบางคนกำลังสร้างสถานการณ์เพื่อสั่นคลอนอำนาจของราชวงศ์ก็เป็นได้
ตอกย้ำการเป็นซากึกฟีลกู๊ด ด้วยมู้ดแอนด์โทนดูสบาย
หนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Poong, The Joseon Psychiatrist 2 ขึ้นแท่นเป็นซีรีส์ย้อนยุคในดวงใจของใครหลายคน นั่นคือการเล่าเรื่องด้วยบรรยากาศอบอุ่น ไม่ว่าคนไข้แต่ละเคสจะประสบเคราะห์กรรมมาหนักหน่วงขนาดไหน เมื่อถึงเส้นชัยพวกเขาจะสามารถหายดีและกลับมามีรอยยิ้มได้เช่นเดิมอยู่เสมอ ทำให้เราสัมผัสได้ว่าเมื่อจิตใจแข็งแรงก็สามารถเอาชนะความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดได้ราวกับปาฏิหาริย์ แน่นอนว่าซีรีส์ยังคงสานต่อความฟีลกู๊ดเหล่านี้ได้เช่นเดิม เพิ่มเติมคือมวลความสุขที่ฟุ้งกระจายเมื่อเหล่าตัวละครต่างสนิทชิดเชื้อกันประหนึ่งญาติมิตรนั่นเอง
นอกจากปมใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในวังหลวง รวมไปถึงอาการป่วยของคนไข้ที่หาทางรักษาได้ยากขึ้นแล้ว เรื่องราวยังยกระดับความสัมพันธ์ของคู่พระนางให้เผชิญกับอุปสรรคร้อยแปดพันอย่าง หลังจากต้องห่างกันไปในช่วงท้ายของภาคที่แล้ว พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้งพร้อมร่วมมือกันรักษาชาวบ้านทั้งในหมู่บ้านโซรัคและเมืองฮันยาง ก่อนจะพบกับบทพิสูจน์หัวใจจากตัวละครใหม่ที่เข้ามาแทรกแซงจนทำให้ความรู้สึกซับซ้อนมากขึ้น นี่จึงเป็นอีกหนึ่งความน่าติดตามซึ่งจะตรึงให้เราลุ้นไปกับเรื่องราวความรักของพวกเขาไปจนถึงตอนจบ
ทีมนักแสดงชุดเดิม เติมความสนุกด้วยตัวละครใหม่
Poong, The Joseon Psychiatrist 2 ยังคงสร้างรอยยิ้มด้วยทัพนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี โดยเฉพาะ คิมมินแจ พระเอกสุดหล่อผู้สามารถถ่ายทอดบทบาทจิตแพทย์คนเก่งได้อย่างเฉียบขาดจนครองใจผู้ชมไปนับไม่ถ้วนจากภาคแรก ภารกิจที่ยากเย็นแสนเข็ญมากขึ้นจึงขาดไม่ได้ที่จะมีลูกมือผู้เก่งกาจอย่าง คิมซังกยอง และนางเอกสาวน้อย คิมฮยางกี สองนักแสดงที่มาพร้อมฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดาเช่นเคย ที่ขาดไม่ได้คือครอบครัวสุดอบอุ่นแห่งคลินิกกเยซูที่ขนกันมามอบความสุขให้กับผู้ชม สร้างความบันเทิงครบรสให้เราได้อิ่มเอมไม่แพ้ภาคแรกเลยทีเดียว
เรื่องราวที่เข้มข้นมากขึ้นย่อมมาพร้อมตัวละครใหม่ แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง คังยองซอก ผู้รับบทเป็น จอนกังอิล แพทย์ประจำราชสำนักที่ไม่ค่อยจะลงรอยกับยูเซพุงเนื่องจากผลคะแนนสอบที่มาเป็นรอง รวมไปถึง อูดาบี นักแสดงหญิงดาวรุ่งผู้รับบทเป็น องค์หญิงอีซออี สาวน้อยที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับเส้นทางรักของคู่พระนาง บอกได้เลยว่าพวกเขาเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด ทั้งยังเป็นตัวละครที่มาพร้อมพฤติกรรมยียวนชวนให้ผู้ชมหัวร้อนมากทีเดียว ต้องยกความดีความชอบให้นักแสดงที่สามารถถ่ายทอดบุคลิกกึ่งร้ายกึ่งดีออกมาได้ถึงใจมากเหลือเกิน
ภาพรวมของ Poong, The Joseon Psychiatrist 2 ยังคงเป็นซีรีส์ย้อนยุคที่เสิร์ฟให้คนดูครบทุกรสชาติ เจาะลึกตำราแพทย์แผนโบราณอย่างลึกซึ้งมากกว่าภาคที่แล้ว วิธีการเล่าเรื่องที่พาเราไปติดตามภารกิจช่วยเหลือคนไข้ที่เจ็บป่วยด้วยอาการต่างกันออกไป ระทึกตื่นเต้นทุกครั้งด้วยการลุ้นว่าพวกเขาจะหายดีหรือไม่ แถมยังมีปมปริศนาอีกมากมายที่ยังรอการคลี่คลายในภายหลัง ที่สำคัญยังคงไว้ซึ่งแนวคิดสำคัญกับการทำความเข้าใจอาการป่วยทางจิต ปิดท้ายด้วยความอบอุ่นจากเหล่าตัวละครที่หลายคนจะไม่มีวันลืม มอบทั้งรอยยิ้มและความสุขให้ผู้ชมได้อิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า