นอกจากหนังแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ของเกาหลีจะเป็นที่ถูกใจผู้ชมในประเทศไทยเราแล้ว ย้อนไปช่วงเวลาหนึ่งหนังสยองขวัญจากเกาหลีก็เคยได้รับความนิยมในบ้านเราเหมือนกัน อย่างเช่น Tale of Two Sisters (2003) ตู้ซ่อนผี, Cinderella (2006) ซินเดอเรเลือด, The Wig (2005) ที่เคยสร้างความหวาดผวามาก่อน หลังจากต้นยุค 2000s แม้หนังแนวอื่นของเกาหลีจะยังประสบความสำเร็จ แต่ดูเหมือนว่าหนังสยองขวัญจะไม่ค่อยเป็นที่ถูกพูดถึงเท่าไหร่ จนกระทั่งมาถึงคิวของ The Silenced (2015) โรงเรียนสยดสัญญาณสยอง หนังสยองขวัญที่พยายามนำเสนอไอเดียอะไรใหม่ ๆ บางอย่างใส่เข้ามา ซึ่งหนังจะสามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมได้ไหมก็ต้องลองชมด้วยตาของตัวเอง
หนังเล่าเหตุการณ์ในปี 1938 ช่วงเวลาที่เกาหลียังอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่น จูรัน (Bo-Young Park) เด็กสาวที่สุขภาพไม่แข็งแรงนักถูกพ่อและแม่เลี้ยงส่งให้มาอยู่ในโรงเรียนประจำคยองซอง โรงเรียนประจำสำหรับเด็กผู้หญิงที่มีอาการป่วย จูรัน ย้ายมาอยู่ด้วยความไม่เต็มใจนัก แต่ก็ไม่สามารถขัดความต้องการของทางบ้านได้ ที่นั่นเธอต้องปรับตัวขนานใหญ่เพราะว่า ของใช้ทุกอย่างที่เตรียมมาจะต้องทิ้งไปให้หมด เธอจะใช้ได้แค่เพียงของที่ทางโรงเรียนแจกให้เท่านั้น รวมทั้งเธอยังต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ชิสุโกะ ให้เหมาะสมกับที่โรงเรียนนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพญี่ปุ่น
เพียงแต่ว่าชื่อ ชิสุโกะ นั้น จูรัน ไม่ได้ใช้เป็นคนแรก แล้ว ชิสุโกะ คนก่อนหน้านี้ก็หายตัวไปจากโรงเรียน ท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนซี้อย่าง ยอนด็อก (So-dam Park) เพราะว่าจู่ ๆ ชิสุโกะ คนเก่านั้นจากไปโดยที่ไม่บอกลาใครในโรงเรียนสักคน จูรัน ที่อยู่ในโรงเรียนนั้นนานไปอาการป่วยของเธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ขณะเดียวกันในโรงเรียนก็เกิดเรื่องราวแปลกประหลาดมากมาย และมีเด็กนักเรียนหายตัวไปโดยไม่ล่ำลาเพื่อน ๆ สักคำอีกครั้ง แต่พวกครูที่ดูแลโรงเรียนกลับบอกว่า ทุกคนที่หายไปนั้นตัดสินใจกลับบ้านกันไปเอง ซึ่ง ชิสุโกะ ดูจะไม่เชื่อคำบอกกล่าวเหล่านั้นอีกแล้ว
***เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน***
หนังที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็น Spirits’ Homecoming (2016) กับ Snowy Road (2017) เวอร์ชั่นสยองขวัญ ระทึกขวัญ คงจะได้ เพราะหนังเล่าเรื่องราวของเด็กสาวชาวเกาหลี ที่ถูกส่งมาอยู่ในโรงเรียนประจำที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพญี่ปุ่น เพียงแต่มันมีความแตกต่างกันของจุดประสงค์ระหว่างหนัง The Silenced (2015) เรื่องนี้กับอีกสองเรื่องที่กล่าวถึง
ใน Spirits’ Homecoming (2016) กับ Snowy Road (2017) นั้น เด็ก ๆ ถูกทหารญี่ปุ่นจับตัวมาเพื่อสนองความใคร่ของตัวเองในช่วงสงคราม แต่กับ The Silenced (2015) โรงเรียนสยดสัญญาณสยอง เป็นการเอาเด็ก ๆ มาทำการทดลองเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ซึ่งขอไม่สปอยส่วนนี้ก็แล้วกันว่าเอามาทดลองอะไร หนังเรื่องนี้จึงน่าจะเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่พยายามเล่าถึงผลกระทบจากสงครามเหมือนกับที่ Spirits’ Homecoming (2016) กับ Snowy Road (2017) เล่ามา เพียงแต่มันมีความแตกต่างของประเด็น และการนำเสนอที่หนังนำมาใช้เท่านั้นเอง
The Silenced (2015) เรื่องนี้มีพากย์ไทยครับ ส่วนเสียงต้นฉบับยังไม่มีซับให้อ่านครับ
กับหนังเรื่องนี้ใช้การเล่าเรื่องแบบ หนังสยองขวัญ ระทึกขวัญ ลึกลับ ในช่วงแรกจนถึงเกือบท้ายเรื่อง ก่อนปิดสรุปเรื่องราวที่ออกจะเหนือความคาดหมาย จนรู้สึกว่าหนังไปไกลกว่าที่คิดพอสมควร คือคิดไม่ถึงว่าหนังจะสรุปเรื่องราวว่าเอาเด็ก ๆ มาทำอะไรในแบบนั้น แล้วมันก็ไปไกลด้วยการที่หนังทำมันได้สำเร็จเอาจริง ๆ ซะด้วย ถามว่าความสยองขวัญระทึกขวัญลึกลับที่หนังใช้ในช่วงต้นได้ผลไหม ก็บอกได้ว่ามันก็ได้ตามมาตรฐานหนังสยองขวัญเกาหลีที่เคยดูกันมานั่นแหละ แม้ฉากเหล่านี้อาจไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่โดยภาพรวมก็ทำได้สยองขวัญยังทำให้เราตื่นเต้นได้
หนังดำเนินเรื่องด้วยสองตัวละครหลัก จูรันและยอนด็อก ที่ตัว ยอนด็อก เองนั้น เคยสนิทสนมกับ ชิสุโกะ คนเก่ามาก่อนที่เธอจะหายตัวไป เมื่อ จูรัน ผู้มาใหม่ใช้ชื่อเดียวกับเพื่อนซี้คนเก่า มันก็ทำให้ ยอนด็อก ใส่ใจเธอกว่าใคร เด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่งนั้นนอกจากจะเรียนหนังสือและรักษาอาการป่วยของตัวเองแล้ว ทุกคนต่างยังต้องแข่งขันกันเพื่อเป็นสองคนสุดท้ายที่จะได้ไปใช้ชีวิตที่ดีกว่าในญี่ปุ่น แล้วสองตัวเต็งที่คาดไว้ก็คือ ยอนด็อกและยูกะ (Ye-ji Kong) ที่ต่างผลัดกันได้ที่หนึ่งและที่สองในการทดสอบมาตลอด แต่ว่าหลังจากที่ จูรัน อาการป่วยเริ่มดีขึ้น เธอจึงกลายเป็นตัวสอดแทรกที่จะมาแย่ง 1 ใน 2 ตำแหน่งนั้นไป มันจึงทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมายหากใครจะรับชมในแอปทรูไอดีก็ค้นหาได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกหมวดหนังสยองขวัญเช่นกันครับ
สรุปแล้ว The Silenced (2015) โรงเรียนสยดสัญญาณสยอง เป็นหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญ ที่ถือว่าผ่านมาตรฐานหนังสยองขวัญเกาหลีนะ ความรู้สึกส่วนตัวผมคิดว่าตอนจบของหนังไปไกลมาก แทบจะหลุดธีมสยองขวัญกลายเป็นหนัง X-Men ไปเลย