เอาเป็นว่าแค่ใส่เสื้อตัวเดิมแต่เนื้อใหม่ใหม่กิ๊ก จาก พ.ศ. 2543 ที่แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช เล่นไว้คู่กับ พีท ทองเจือ มาในปีนี้ เมกเกอร์ วาย หยิบเอา เขาวานให้หนูเป็นสายลับ กลับมาปัดฝุ่นใหม่ชนิดที่ขัดซะจนเงาวับ แทบไม่เหลือคราบเวอร์ชันเก่าเอาไว้เลย แน่นอนว่าแก่นของเรื่องก็ยังคงเดิมคือมีเรื่องราวความรัก พื้นฐานครอบครัวของพระเอก นางเอก บรรยากาศโดยรวมที่มีเรื่องราวของการสืบสวนสอบสวน แต่รายละเอียดข้างในนี่เปลี่ยนใหม่หมด เรียกว่าใส่ความทันสมัยเข้าไปให้ผู้ชมได้บันเทิงกันครบรส โดยเฉพาะนางเอกหน้าใสขวัญใจฮอร์โมน เก้า–สุภัสรา ธนชาติ มารับบทเป็น ส้วม ที่ไม่ใช่ส้วมอย่างที่เราเอาไว้ใช้กันอย่างทุกวัน แต่นางเอกเรื่องนี้นางชื่อส้วมจ้ะ….แหม ถ้าส้วมจะน่านั่งขนาดนี้ พี่จะอยู่ในส้วมไม่ลุกไปไหนเลย
ส้วม (เก้า-สุภัสรา ธนชาติ) สาวน้อยชื่อเสียงหอมฟุ้งที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ผู้กังขาว่าตกลงแล้ว ประกอบ (ต้น–จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ ) เป็นพ่อของเธอจริง ๆ รึเปล่า ก็เห็นชอบซ้อมแม่ไถเงินแม่อยู่ทุกวี่วัน แม่ของส้วมชื่อ บุญยืน (นก–จริยา แอนโฟเน) มีอาชีพเปิดบ่อนไพ่ ไฮโล ขายหวยใต้ดิน ส้วมขยัน ใฝ่เรียน ไม่เกี่ยงงานหนัก แต่วนเวียนอยู่แถวโรงพักเป็นว่าเล่น จนจับพลัดจับผลูไปเป็นสายลับจำเป็นให้กับ ทวนเทพ (อู๋–ธนากร โปษยานนท์ ) นายตำรวจยศใหญ่ที่ปลอมตัวมา หนำซ้ำยังต้องไปพัวพันจนถึงขั้นแต่งงานกับรองผู้กำกับฯ คนใหม่ที่มาพร้อมคำครหาว่าใช้เส้นสายอย่าง ดนุรุจ (เกรท–วรินทร ปัญหกาญจน์ ) ก็นี่อ่ะแหละ จุดเริ่มต้นของความรักกับภารกิจลับที่ต้องทำให้จบภายในเวลา 3 เดือน แน่นอนอยู่แล้วว่า เรื่องราวทั้งหมดที่เราจะได้เจอก็คือ การสืบสวนสอบสวนคดีต่าง ๆ โดยเฉพาะการตามสืบคดีใหญ่ แล้วก็เรื่องจิ้น ๆ แหวว ๆ ความรู้สึกดี ๆ ที่เริ่มก่อตัวท่ามกลางความวุ่นวาย รัก ๆ ลับ ๆ อะไรทำนองนี้
ชมน้องเก้าก่อนเลย นางเล่นดีเป็นธรรมชาติมาก แหม…เด็กแก๊งฮอร์โมนนี่ฝีมือไม่ทิ้งลายกันสักคนเลยจริง ๆ ถามว่าเทียบชั้นกับแหม่ม แคทลียา ที่เป็นส้วม 2543 ได้ไหม อย่าเอาไปเทียบเลยมันคนละสไตล์กัน ส้วมคนเก่าก็ดีส้วมคนนี้ก็เจ๋ง ว่ากันซื่อ ๆ อย่างนี้แหละ แถมรายละเอียด เนื้อหาที่ใส่ลงไปในเวอร์ชันนี้ ก็ทันสมัยทันยุคกับปัจจุบัน เสื้อผ้าหน้าผมมีความเรียลเอามาก ๆ โดยเฉพาะพี่นกจริยา กับกิ๊บปากเป็ดที่อยู่บนหัว
มาดูที่การดำเนินเรื่อง
ว่องไวปรู๊ดปร๊าด เพลิดเพลิน คือมันเป็นละครเบาสมองที่ไม่ได้เอะอะจะเล่นเอาขำไปเรื่อย ๆ แต่มีสาระ แอบมีดราม่าเล็ก ๆ ชอบมุมหนึ่งที่ใส่บทเรื่องการสะกดภาษาไทย “คะ-ค่ะ” เข้ามาในเรื่อง ถึงจะเป็นบทที่แอบแซวกันเล็ก ๆ แต่ก็บอกได้ว่าคนเขียนบทใส่ใจสิ่งละอันพันละน้อยแค่ไหน แถมด้วยการสอดแทรกเรื่องราวของโรคซึมเศร้าที่กำลังเป็นโรคท็อปฮิตอยู่ในขณะนี้ ไม่มีใครอยากป่วยหรอกนะคะ แต่เมื่อมันเป็นขึ้นมาแล้วคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนในครอบครัวคือหัวใจหลักที่จะช่วยให้ผู้ป่วย ข้ามผ่านโรคนี้ไปให้ได้ การใส่ใจดูแลกันภายในครอบครัว จึงเป็นสิ่งที่สำคัญชนิดที่ว่าไม่ควรมีใครละเลย นี่คือสิ่งที่ละครเอามาใส่เข้าไปในเรื่องนี้ด้วย
ใครที่ชอบละครแนวสืบสวนสอบสวน โรแมนติกคอมเมดี้ ดูไปเถอะเรื่องนี้ไม่มีคำว่าเสียเวลา แล้วสิ่งที่ได้ก็คือความฮาเล็ก ๆ สาระที่สอดแทรก ดูกันไปเพลิน ๆ เลยค่ะ แล้วเกรทกับก้าวนี่อยู่ ๆ ก็เคมีเข้ากันหน้าตาเฉย หลังจากที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน ปี่แก้วนางหงษ์ แต่ไม่ได้เป็นพระนาง คราวนี้กลับมาเจอกันอีกครั้งก็จับคู่เป็นพระนางกันซะเลยมันหมายความว่าอะไร? คือคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกซะจากว่า ทั้งสองคนมีฝีมือการแสดงที่เข้าตากรรมการและเหมาะสมที่จะมาเป็นพระนางของเรื่องนี้จริง ๆ แอบชมนักแสดงเด็ก ด.ช.วิกร ธนากรอัครกุล เล่นเป็นหลานชายของส้วม น้องเล่นดีเชียว ร้องไห้เพราะความกลัวน้ำตาไหลออกมาสองข้างแก้ม น่าเอ็นดูเชียวลูกเอ้ย
