The Dude in Me เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีโรแมนติกคอมเมดี้ ถ้าอ่านแค่เรื่องย่อก็คงรู้สึกว่าพล็อตพื้นๆ สลับร่าง ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นแฟนคลับ พัคซองอุง และมีความสนใจอยากติดตามดูพัฒนาการฝีมือของ จินยอง B1A4 ก็เริ่มต้นจากไม่ได้คาดหวังอะไรสูงจากเรื่องนี้ แต่ดูจบแล้วก็รู้สึกว่าสนุกใช้ได้ เลยชวนมาลองดูกัน ผ่อนคลายเรื่องเครียดๆหรืออากาศร้อนๆได้ดีเลย~
ภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของ จางพันซู (รับบทโดย พัคซองอุง) อดีตนักเลงคนจริงที่ได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองให้มีอนาคตใหม่ เขาเริ่มประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจอสังหาฯและการลงทุนในต่างประเทศ ด้วยฝีมือและความเข้าตา ซีอีโอ ฮัน (รับบทโดย คิมฮงฟา) ซึ่งเป็น tycoon (คือนักธุรกิจที่ทั้งรวยและทรงอิทธิพล) และเป็นพ่อตาของเขาเองด้วย ในขณะที่ความสัมพันธ์เขากับภรรยา ไม่ราบรื่นนัก แต่พ่อตากลับปลื้มผลงานลูกเขยมากกว่าความหยิบโหย่งของลูกสาวซะงั้น
จางพันซู มีคู่ปรับกวนใจ คือ ซีอีโอยาง (รับบทโดย ยุนคยองโฮ) นักเลงรุ่นน้องที่เป็นเจ้าของบริษัทคู่แข่ง อ่อนชั้นฝีมือกว่าแต่ก็คอยแย่งชิงขัดขางานกับเขาอยู่เสมอ
คิมดงฮยอน (รับบทโดย จินยอง) เด็กนักเรียนมัธยม ‘ไอ้หมูตอน’ มักถูกเพื่อนๆรังแกด้วยความไม่สู้คน เขาเป็นลูกชายของ คิมจงกี (รับบทโดย คิมกวังคยู) เจ้าของร้านงานช่างไม้ในจองวอนดงพลาซ่า ซึ่งเป็นอสังหาฯของจางพันซูที่กำลังจะมีแผนพัฒนาใหม่ คิมจงกี ผู้มีหนี้สินเงินกู้ท่วมหัวและเป็นร้านเดียวที่ดื้อแพ่งไม่ยอมถูกขับไล่ที่ จึงถูกหัวหน้าบังมันชอล (รับบทโดย อีจุนฮอก) มือขวาของจางพันซูยกทีมสมุนไปข่มขู่ด้วยกำลังให้เซ็นต์ยกเลิกสัญญาเช่าเดิม
วันหนึ่ง เมื่อ จางพันซู และ คิมดงฮยอน ต่างเข้าไปเป็นลูกค้าในร้านรามยอนปลาเดียวกัน เป็นร้านประจำของจางพันซูในอดีต ที่ปัจจุบันไหงรสชาติไม่ได้เรื่องไปซะละ แต่เจ้าหมูตอนคิมดงฮยอนกลับซัดรัวไปหลายชาม เมื่อถูกเพื่อนโทรมาขัดการกินจนต้องรีบเผ่นก่อน แถมลืมเอากระเป๋าเงินมาอีก ป้าเจ้าของร้านใจดียกให้จางพันซูจ่ายแทน 555 เขาจึงจ่ายไปอย่างงงๆ แต่ป้าเจ้าของร้านก็สัญญาด้วยหน้าตามีเลศนัยว่าจะมีสิ่งตอบแทนอย่างแน่นอน
วันนั้น ขณะที่จางพันซูกำลังสำรวจพื้นที่ ก็เกิดอุบัติเหตุโดนร่างหนึ่งที่ร่วงจากยอดตึกลงมาทับเขาจนสิ้นสติไป
ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล เขาก็เจอกับเรื่องสุดช็อค ร่างของเขากลายเป็นเจ้าหมูตอนคิมดงฮยอนไปแล้ว และร่างของเขาเองกลับนอนไร้สติโคม่าอยู่ และค่อยๆตระหนักได้ว่า เขากับคิมดงฮยอนคงสลับร่างกันในอุบัติเหตุนั้น หมอลงความเห็นว่าอุบัติเหตุทำให้สมองและความจำเพี้ยนไป
เมื่อความพยายามหลากหลายวิธีคืนร่าง ใช้ไม่ได้ผล และแม้จะมีความเอะใจในร้านรามยอนของป้าสุดประหลาดคนนั้นจนกลับไปตามหา แต่ก็กลายเป็นเรื่องลึกลับเมื่อพบว่าไม่เคยมีร้านนั้นอยู่จริง จางพันซูจึงต้องจำยอมรับสภาพไปก่อน จากคนบุคลิกระเบียบเนี๊ยบกริ๊บ กลายเป็นคนตะกละกินมอมแมม จากนักเลงที่มีแต่คนยำเกรง เป็นบอสรายล้อมด้วยสมุน จะให้กลายมาเป็นไอ้คนไม่เอาไหนไม่สู้คน ถูกเพื่อนเกเรร่วมห้องจิกใช้เป็นไลน์แมนส่วนตัวงั้นหรือ เขาไม่มีทางยอมเป็นแบบนั้นหรอก
หลังจากจางพันซูในร่างคิมดงฮยอนรู้แล้วว่า อะไรคือสาเหตุให้คิมดงฮยอนตกตึกลงมา จนสร้างความเดือดร้อนให้เขาต้องติดแง่กอยู่ในร่างนี้ และยังได้เห็นว่าเพื่อนนักเรียนหญิง โอฮยอนจอง (รับบทโดย อีซูมิน) ก็ถูกเพื่อนเฮี้ยวๆรังแกเป็นประจำเช่นกัน ก็คงปัญหาเด็กนักเรียนทั่วไป จึงสั่งสอนไปพอหอมปากหอมคอ เสร็จธุระแล้วก็เตรียมปลีกตัวจากละ
แต่การบังเอิญได้พบว่า แม่ของโอฮยอนจอง คือ โอมีซอน (รับบทโดย รามีรัน) ผู้หญิงที่เป็นรักแรกซึ่งเขาทิ้งเธอไปแต่งงานกับลูกเศรษฐี และยิ่งกว่านั้นเมื่อพบว่า โฮฮยอนจองเป็นลูกสาวของเขาเอง ซึ่งเขาไม่ได้รับรู้มาก่อนว่าแฟนสาวท้องตอนเลิกกัน ทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆครอบครัวนี้ เพื่อช่วยเหลือ ปกป้อง ขอโทษ และปรับความเข้าใจกับโอมีซอนให้ได้ก่อน แต่จะทำอะไรได้แค่ไหนในเมื่อตัวเองอยู่ในสภาพของเด็กนักเรียนอย่างคิดงฮยอนที่พูดไม่ออกบอกความจริงไม่ได้ ต้องตามไปดูกันต่อเองค่ะ ซึ่งไม่ได้มีแค่ปมเดียวนะ แต่เขายังต้องเจออีกหลายปมทั้งจากสถานะคับขันของคิมดงฮยอนและจางพันซู รวมทั้งลุ้นการคืนร่าง ว่าจะเกิดไหม อย่างไร
จัดว่าเป็นหนังดูง่าย ดูสนุก เพลิดเพลินดี ขำได้เป็นระยะๆ แบบจบไม่รู้ตัว เพราะเดินเรื่องกระชับฉับไว ผูกปมไว้ง่ายๆแต่ก็ชวนติดตาม สร้างความเป็นฮีโร่แก้ไขสถานการณ์ทั้งอดีตและปัจจุบัน ทั้งของตัวจางพันซูเองและคิมดงฮยอนไปด้วยกัน ก็ประมาณว่าเป็นชะตาที่ต้องเกี่ยวพันกัน มีความน่าเอ็นดูที่เห็นแอคชั่นแบบนักเลงแต่จิตใจแบบคนดี ได้เห็นมุมมองแปลกใหม่ของจินยองคนหล่อในเมคอัพเด็กอ้วนหน้ากลมพุงหลาม (แต่เมคอัพออกจะแข็งๆไปนิด ไม่ค่อยเนียนนัก) และที่สำคัญหนัง happy ending ฟิลกู้ดน่ารักดีด้วย
เรื่องนี้บทของพัคซองอุงจะน้อยกว่าจินยองหน่อย แต่ก็ส่งบทถึงกันได้ดี การต้องเลียนแบบบุคลิกท่าทางของอีกฝ่าย เป็นเรื่องท้าทายฝีมือการแสดง และสร้างความขำน่ารัก ยิ่งบทมาในแบบบุคลิกขัดแย้งกัน จั่วพลอตมาตั้งแต่แรก นักเลง vs นักเรียน ก็รู้ละว่าจะมีตามมาอีกเยอะ ความฮาเรื่องนี้จึงสอบผ่านอยู่นะ ในด้านความเนียน จินยองแม้ว่าจะเล่นได้ไม่สุดเท่าไหร่ แต่ก็จัดว่าดีเกินคาด พาอารมณ์ลื่นไหลได้ ไม่สะดุด ไม่เกิดช่องว่างกับนักแสดงระดับตัวพ่อตัวแม่อย่างพัคซองอุงและรามีรันเลย สำหรับคนที่ห่วงหล่อของจินยองนั้น ครึ่งเรื่องหลังจะกลับมาหล่อเพรียวเฟี้ยวสมใจแน่นอนจ้า ดูหนัง Netflix