หนัง Heist สนุกๆ x หนังเจ้าหนูผจญภัย x หนังน้องหมาซนๆน่าเอ็นดู x หนังครอบครัวชูใจ
ครบสูตรความเพลิดเพลินและฟิลกู้ดอย่างไม่ต้องสงสัย
How to Steal a Dog เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเด็กของอเมริกันในชื่อเดียวกัน แต่งโดย Barbara O’Conner ซึ่งเนื้อหาที่ปรับมาให้เข้ากับบริบทของเกาหลี ได้เห็นชีวิตฉลาดซุกซนแบบใส ๆ ของเด็ก ส่งผ่านอารมณ์ขันน่ารักช่างคิด แทรกสาระดี ๆ เพิ่มพูนความรักซึ้ง ๆ ในครอบครัว หยอดมิตรภาพดีงาม และชูการเรียนรู้ก้าวพ้นวัยของเด็กน้อยไปด้วยกันอย่างกลมกล่อมบนพล็อตหลักของเรื่อง คือ แผนปล้นตูบ / แผนการลับจับเจ้าตูบตัวดี เป็นการล้อวิถีหนัง Heist หรือ Caper (หมายถึงหนังที่มีแผนปล้นแบบสนุกสนานชวนลุ้นเชียร์ให้สำเร็จเพราะตัวเอกคืออาชญากร ตัวอย่างเช่นหนังเกาหลีเรื่อง The Thieves หรือหนังฝรั่งเรื่อง Now You See Me หรือ Money Heist หรือหนังชุดตระกูล Ocean’s เป็นต้น) แต่ขอบอกเลยว่า ถึงจะเป็น heist ฉบับจูเนียร์จิ๋ว ๆ แต่ก็ไม่ธรรมดาเลยคร้า
เสน่ห์โดดเด่นของการลีดนำเรื่องโดยนักแสดงเด็ก และยังเป็นผู้ปล้นหรือผู้วางแผนลักขโมยเจ้าตูบด้วย ยิ่งน่าดูเข้าไปอีก เมื่อได้น้อง อีเร ฝีมือดีและน่ารักสุด ๆ วัย 8 ขวบในตอนนั้น มารับบท จีซู เด็กน้อยวัย 10 ขวบ ฉลาดพูดฉลาดคิด อยู่กับแม่และน้องชาย ส่วนพ่อหายตัวไปกระทันหันพร้อมทั้งกิจการร้านพิซซ่าและบ้าน มีเพียงรถมินิแวนที่ใช้ส่งพิซซ่าเท่านั้นที่ยังเหลือทิ้งให้พวกเธอได้ใช้เป็นบ้านเคลื่อนที่ ซึ่งกะว่าเป็นการชั่วคราวรอพ่อกลับมา
เหล่านักแสดงเด็ดๆที่มาร่วมเป็นตัวละครเสริมเรื่องราวและส่งความสนุกฮา ได้แก่
คังฮเยยอง รับบทเป็น จองฮยอน แม่ของ จีซู ผู้ตกระกำลำบากอย่างไม่ทันตั้งตัว ต้องไปหางานทำที่ร้านอาหารหรูของเพื่อนชาย (ที่เคยมีใจให้เธอก่อนเธอจะแต่งงานไป) ด้วยหลักการที่ว่ายังไงเสีย เธอก็ต้องมีเงินพอให้ไม่กระทบเรื่องเรียนของจีซู และมีอาหารกินให้ลูก ๆ กิน แม้จะไม่มีปัญญาหุงหาให้ด้วยตัวเองก็ตาม
อีชอนฮี รับบทเป็น จองซูยอง เพื่อนของ จองฮยอน ผู้บริหารร้านอาหารซึ่งเป็นกิจการของป้าที่ค่อนข้างดุ คุมเข้ม เขาอุตส่าห์ใจดีรับจองฮยอนเข้ามาเป็นบริกร แต่เธอก็ดันพ่วงลูกชายเข้ามาแอบเลี้ยงด้วย (ทำยังกะเป็นบ้านตัวเอง)
คิมฮเยจา รับบทเป็น ป้ามาดามเจ้าของกิจการตัวจริง เป็นคนรวยที่เข้าถึงยาก ไม่เป็นมิตรไม่ว่ากับใคร ยกเว้นกับสุนัขเลี้ยงที่ชื่อว่า ‘วอลลี‘ ที่เธอเอ็นดูจูงมาตรวจร้านด้วยเสมอ ก็เพราะเธอไม่เชื่อใจคนเท่าสุนัขที่ซื่อสัตย์ แม้ว่าญาติคนเดียวที่เหลืออยู่จะเป็นซูยองก็ตาม
อีจีวอน รับบทสำคัญเป็น แชรัง เพื่อนสนิทของจีซู เพื่อนคนเดียวที่รู้ความลับชีวิตบ้านติดล้อ และยังเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมแผนปฏิบัติการสำคัญกับเธอด้วย
ฮงอึนแทก รับบทเป็น จีซุก น้องชายวัย 6 ขวบของจีซูที่ยังไม่ต้องไปโรงเรียน จึงป้วนเปี้ยนไปอยู่กับแม่บ้าง ตามพี่สาวบ้าง เขากลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดคนสำคัญไปด้วย เด็กที่ดูจะมึน ๆ ซนไปวัน ๆ แต่ก็แจมไอเดียเด็ด ๆ เกินคาดเช่นกัน
อีฮงกิ รับบทเป็น ซอกกู พนักงานรับออเดอร์และเดลิเวอรี่ของร้านพิซซ่าบินส์ อาหารประจำครอบครัวของจีซู เป็นอีกคนที่มีเหตุให้เข้ามาเกี่ยวข้องในแผนของเด็ก ๆ ด้วย
ชเวมินซู รับบทเป็น ชายจรจัดที่ป้วนเปี้ยนอยู่ในละแวกนั้น แลดูลึกลับไม่ค่อยน่าไว้ใจเพราะรูปลักษณ์และการมีสามนิ้ว แต่เขามีอะไรมากกว่าที่คิดในภารกิจของเด็ก ๆ เช่นกัน
เหตุเริ่มต้นเมื่อมีเพื่อนในห้องเรียนพูดถึงเรื่องการจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้าน จีซูจึงบอกว่าจะจัดเช่นกัน แต่เธอต้องมีบ้านก่อน และก่อนมีบ้านก็ต้องมีเงิน ให้บังเอิญเห็นใบปลิวประกาศตามหาสุนัขหายโดยมีรางวัลให้ตั้ง 5 ล้านวอนเชียว จำนวนพอดีกับค่าบ้านที่เธอเห็นจากสำนักงานอสังหาฯ (ทั้งๆที่เห็นคือราคาต่อตรม. แต่ความเป็นเด็กก็ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร ) (>_ <)จึงเกิดไอเดียแอบลักพาตัวน้องหมามาซ่อนสักพักแล้วค่อยนำไปคืนเพื่อขอรับเงินรางวัล น่าทึ่งกับความฉลาดเป็นกรดกว่านั้นเมื่อเห็นแผนการที่กลั่นกรองอย่างดี มีกลยุทธ คิดรัดกุมทุกเม็ด สมบูรณ์แบบตั้งแต่เกณฑ์การเลือกเป้าหมาย ไปยังเตรียมการวิธีลงมือปฏิบัติ เสมือนมืออาชีพตัวจริง และแล้วเจ้าตูบเป้าหมายของแก๊งลักพาตัวรุ่นจิ๋วแต่แจ๋วนี้ ก็ถูกเล็งมาที่ เจ้าวอลลี นั่นเอง
การล่อดักลักพาตัวเจ้าวอลลีผู้ปราดเปรียวก็ใช่ว่าจะง่ายนัก ซึ่งก็จะสนุกน่าติดตาม นอกจากนี้ยังมีเรื่องไม่คาดคิดจากตัวแปรอื่น ๆ ที่ทำให้แผนยุ่งเหยิงป่วนจนชวนลุ้นกันว่าท้ายสุดแล้วแก๊งจีซูจะทำสำเร็จรอดฝั่ง ได้เงินมาซื้อบ้านสมหวังหรือไม่ อย่างไร
ความผจญภัยที่ดูเพลินตลอดเรื่อง จังหวะสนุกฉับไวแนวหนัง Heist ฉากระทึกแนวแอคชันไล่ล่าบนถนนก็ยังมีเสิร์ฟเลย บทเซอร์ไพรซ์หักมุมก็มี เพื่อขยายเหตุผลที่มาที่ไปของปมของบางตัวละคร ทิ้งนัยชวนคิดได้กินใจ เช่นความหมายของบ้านและเงินที่เด็ก ๆ ตามหา คุณค่าของชีวิตที่เรียนรู้ได้จากทั้งคนดีและคนไม่ดีที่เจอ หลาย ๆ ฉากชวนอิ่มเอมอมยิ้มปลื้มปริ่ม เรียกได้ว่าครบรสครบสูตรสากลของหนังแนวนี้ ประเภทที่ว่าเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี ปลอดมลพิษแน่นอน ^^
แม้เนื้อบางส่วนจะหลวม ๆ ไปบ้าง แต่ก็ยอมปล่อยวางข้ามไปเน้นดูความอินโนเซนส์ใส ๆ ของเด็ก ขับเคลื่อนเรื่องราวจากต้นจนจบแบบเต็มพลังบวกไม่มีตกเลยจริง ๆ และถึงแม้จะยังเหลือปมที่คลี่คลายไม่ครบหมด แต่ก็ถือว่าจบได้อย่างอบอวลความแฮปปี้ค่ะ แปะกิมมิคเรียกขำสุดท้ายด้วยใบปลิวตามหาพ่อเป็นรูป Tablo คุณสามีตัวจริงของคังฮเยยอง 555
เด็กๆแสดงได้ดีเป็นธรรมชาติน่ารักเต็มสิบเต็มร้อย ส่วนบทเจ้าตูบอาจไม่เยอะนัก แต่เป็นดาราสมทบที่ดี ชื่อจริงคือเจ้าแกรี่ ฝีมืออาจไม่จัดจ้านมาก พอพึ่งพาการตัดต่อช่วยก็ลงตัวน่าเอ็นดูอยู่นะ
ปล. ขอทดสอบความตาไว เห็นนักแสดงพัคซังฮุนบ้างไหมเอ่ย สมัยยังเด็ก เล่นเป็นตัวประกอบที่ไม่มีบทพูด!