สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ (Ten Miles Of Peach Blossoms/Eternal Love) เป็นซีรีส์จีนยอดนิยมที่ได้รับการเข้าชมมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านครั้ง เช่นเดียวกับซีรีส์เรื่อง มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (Ashes Of Love) ซีรีส์เรื่องนี้มาจากนวนิยายชื่อดังของจีนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่หลายครั้ง ซีรีส์เป็นที่รู้จักในหลายชื่อ แต่ชื่อเต็มของซีรีส์เรื่องนี้คือ “Three Lives Three Worlds Ten Miles Of Peach Blossoms” เพียงแค่ชื่อเรื่องเพียงอย่างเดียวก็ง่ายที่จะคาดเดาธีมของซีรีส์เรื่องนี้แล้ว โดยซีรีส์จะนำเสนอความรักที่ครอบคลุม 3 ชาติและ 3 ภพ ในอาณาจักรที่แตกต่างกัน เนื้อเรื่องสร้างมาจากนวนิยาย อย่างไรก็ตามผู้เขียนไม่เคยอ่านนวนิยายเรื่องนี้เลยไม่สามารถตัดสินได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ใกล้เคียงกับเรื่องราวดั้งเดิมในหนังสือมากแค่ไหน

ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งหมด 58 ตอน สำหรับคนที่ไม่เคยดูซีรีส์จีนอาจจะคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องยากที่จะดูเพราะต้องใช้เวลาที่ค่อนข้างนานกว่าซีรีส์จะจบ แต่เราขอบอกก่อนว่าหากคุณได้ดู 1 Ep. แล้วคุณจะเลิกดูไม่ได้ ซีรีส์เรื่องนี้ได้รวบรวมดารา นักแสดงชื่อดังของจีนไว้มากมายทั้ง หยางมี่, จ้าวโย่วถิง, ตี่ลี่เร่อปา และเกาเว่ยกวง ในซีซันนี้จะเป็นเรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางป๋ายเฉี่ยน (หยางมี่) และรัชทายาทเยี่ยหัว (จ้าวโย่วถิง) นอกจากนี้ยังมีภาคต่อจากซีรีส์เรื่องนี้คือเรื่อง สามชาติ สามภพ ลิขิตเหนือเขนย (Three Lives Three Worlds, The Book Book) โดยซีรีส์เรื่องนี้จะนำเสนอเรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางสีแดงป๋ายเฟิ่งจิ่ว (ตี่ลี่เร่อปา) และมหาเทพตงหัว (เกาเว่ยกวง) ขอบอกเลยทั้ง 2 ซีซันนั้นดีงามทั้งเรื่อง ถึงแม้สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่จะผลิตตั้งแต่ 2017 แต่ความนิยมก็ยังมีมาถึงปัจจุบัน ตัวผู้เขียนเองก็ดูมามากกว่า 5 รอบ หลงอยู่ในป่าท้อออกมาไม่ได้ค่ะ อิอิ

เรื่องย่อ Eternal Love

Eternal Love เป็นเรื่องราวของป๋ายเฉี่ยน (หยางมี่) จิ้งจอกเก้าหางในตำนานที่ปลอมตัวมาเป็นซืออินเพื่อไปฝึกวิชาที่ภูเขาคุนหลุนซวี เธอจึงได้เป็นศิษย์คนที่ 17 ของม่อเยวียน (จ้าวโย่วถิง) วันหนึ่งซืออินได้ถูกจอมมารจับตัวไปเป็นเชลย เธอจึงได้เจอกับหลี่จิ้ง (จางปินปิน) โดยหลี่จิ้งรู้ว่าซืออินเป็นผู้หญิงตั้งแต่แรกและตกหลุมรักเธอ ส่วนซืออินเองก็ชอบหลี่จิ้งเช่นเดียวกัน ต่อมาม่อเยวียนได้ไปช่วยซืออินออกมาก เผ่านรกก็ประกาศที่จะทำสงครามกับเผ่าสวรรค์อย่างเป็นทางการ โดยในภพนี้ม่อเยวียนได้สละชีวิตตัวเองเพื่อปิดผนึกวิญญาณของจอมมารไว้ ทำให้ป๋ายเฉี่ยนที่ใช้ชื่อว่าซืออินในตอนนั้นเสียใจมากจึงพยายามพาร่างของม่อเยวียนที่ไร้วิญญาณกลับที่ถ้ำจิ้งจอกของเธอโดยไม่ได้บอกลากับศิษย์พี่ที่ร่ำเรียนมาด้วยกัน

70,000 ปีต่อมาป๋ายเฉี่ยนกลับไปใช้ร่างจิ้งจอกเก้าหางเช่นเดิม และได้อาศัยอยู่ในชิงชิวมาตลอดกว่า 70,000 ปีโดยที่ไม่ได้ก้าวออกไปข้างนอกเลยแม้แต่ก้าวเดียว เมื่อครบรอบ 70,000 วิญญาณของจอมมารก็กลับมาแข็งแรงอีกครั้งป๋ายเฉี่ยนจึงพยายามที่จะทำทุกทางเพื่อจะผนึกวิญญาณ แต่จอมมารพยายามปิดผนึกความทรงจำและพลังของป๋ายเฉี่ยนทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่จำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับตัวเอง ในภพนี้เธอกลายเป็นผู้หญิงธรรมดาแต่ได้พบรักกับรัชทายาทเยี่ยหัว (จ้าวโย่วถิง) โดยเยี่ยหัวได้ตั้งชื่อเธอว่าซู่ซู่และเขาก็ไม่รู้ว่าเธอคือเทพป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิว ทั้งสองรักกันและมีลูกด้วยกันคืออาหลี แต่เมื่อซู่ซู่คลอดลูกเธอได้เจอเหตุการณ์อัปยศมากมายทำให้เธอตัดสินใจที่จะตายโดยกระโดดลงแท่นประหารเซียน ป๋ายเฉี่ยนจำอดีตที่เกิดขึ้นที่เมืองมนุษย์ไม่ได้เลย เมื่อผ่านไปอีก 300 ปีทำให้เธอกลับมาเจอเยี่ยหัวอีกครั้งในฐานะเทพป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิวซึ่งทำให้เยี่ยหัวประหลาดใจไม่น้อย

ทำไมต้องดู Eternal Love ?

คำเตือน : อาจมีสปอยล์

1. มีตัวละครที่น่าสนใจ

ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะมีตัวละครเยอะมากแต่ขอบอกเลยว่าโดดเด่นทุกตัวละครไม่ว่าจะเป็นเผ่ามาร เผ่าจิ้งจอก เผ่าสวรรค์ก็ต่างมีเอกลักษณะเป็นของตัวเอง หากคุณได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คุณจะรู้ได้เลยว่าความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครจะเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพยายามอย่าละสายตาจากการรับชม ต่อไปเราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับตัวละครกันให้มากขึ้นค่ะ

• ป๋ายเฉี่ยน / ซืออิน / ซูซู่ (หยางมี่)
  ป๋ายเฉี่ยนเป็นลูกคนเล็กและเป็นลูกสาวคนเดียวของราชาจิ้งจอกป่ายจู้ เธอเป็นสมาชิกของกลุ่มจิ้งจอกขาวเก้าหางและเป็นราชินีจิ้งจอกแห่งชิงชิว เธอฉลาดและตรงไปตรงมามีความกล้าที่จะพูดความในใจ ป๋ายเฉี่ยนถือว่าเป็นในสาวงามที่เลื่องชื่อและไม่มีใครได้พบเห็นเธอนัก ขอบอกเลยว่าหยางมี่แสดงทุกบทบาทได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก บทจะอ่อนหวานก็อ่อนหวานมาก บทจะแข็งแกร่งก็แข็งแกร่งที่สุด นอกจากนี้ใบหน้าของเธอยังสวยมากเหมาะสมกับบทราชินีจิ้งจอกเก้าหาง
• เยี่ยหัว / ม่อเยวียน (จ้าวโย่วถิง)
  เยี่ยหัวเป็นมกุฎราชกุมารแห่งเผ่าสวรรค์ใน 9 สวรรค์ เขาเป็นคนใจเย็นและมีเหตุผล เขาเป็นคนที่มีความสามารถสูง ตั้งแต่ยังเด็กจนเป็นมกุฎราชกุมารที่มีความรับผิดชอบอย่างมาก เยี่ยหัวนั้นยังมีความคล้ายคลึงกับม่อเยวียนมาก หากคุณได้ดูซีรีส์คุณจะได้รู้ความจริงว่าทั้งสองเป็นอะไรกัน ม่อเยวียนเป็นอาจารย์แห่งเขาคุนหลุนซวี เขาไม่ชอบพูด แต่ฉลาดและเป็นที่เคารพนับถือของทุกคน แต่ความจริงที่สำคัญมากก็คือทั้งเยี่ยหัวและม่อเยวียนนั้นหลงรักป๋ายเฉี่ยนเช่นกัน ขอบอกเลยว่าจ้าวโย่วถิงนั้นหล่อมากทั้ง 2 บทบาททำให้เรารู้และเห็นว่าเขานั้นมีความสามารถมากเพียงใด

• มหาเทพตงหัว (เกาเว่ยกวง)
  มหาเทพตงหัวเป็นอดีตราชาบนสวรรค์ที่สละบัลลังก์เมื่อนานมาแล้ว เขาเป็นหนึ่งในเทพเจ้าชั้นสูงที่ได้รับการเคารพนับถือจากทุกคน แม้แต่ผู้ปกครองสวรรค์คนปัจจุบันยังต้องเชื่อเขา เนื่องจากสถานะประสบการณ์และความรับผิดชอบของเขา เขาจึงเป็นคนที่สงบนิ่ง ไร้อารมณ์ และไม่สนใจเรื่องของใครเลย ขอบอกเลยว่าเกาเว่ยกวงแสดงบทบาทมหาเทพผมขาวได้หล่อมาก ซึ่งบทบาทนี้ต้องเกาเว่ยกวงเท่านั้นค่ะ
• ป๋ายเฟิ่งจิ่ว (ตี๋ลี่เร่อปา)
  ป๋ายเฟิ่งจิ่วเป็นหลานสาวของป๋ายเฉี่ยน พ่อของเธอเป็นพี่ชายคนที่สองของป๋ายเฉี่ยน เฟิ่งจิ่วยังเด็กและชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เธอหลงรักมหาเทพตงหัวตั้งแต่แรกภพเลยพยายามตามตื้อมหาเทพไปทุกชาติทุกภพ หากอยากรู้ว่าสำเร็จหรือไม่? ต้องไปดู “ซีรีส์สามชาติ สามภพ ลิขิตเหนือเขนย” ค่ะ ขอบอกเลยว่าฟินมาก สำหรับบทบาทนี้เหมาะกับตี๋ลี่เร่อปาเป็นอย่างมาก ด้วยใบหน้าสวยงามราวกับภาพวาด ทำให้เธอกลายเป็นสีสันของเรื่องและดึงดูดใจผู้ชม

2. เสื้อผ้า ฉากและ CG

ขอบอกเลยว่าเครื่องแต่งกายในเรื่องนี้ดีงามมาก คือตัวละครทุกตัวจะแต่งกายดูสง่า สำหรับผู้เขียนแล้วผู้เขียนชอบเครื่องแต่งกายของป๋ายเฉี่ยนมากที่สุด เพราะแต่ละชุดจะมีการออกแบบเป็นโทนสีพาสเทลและมีลายดอกไม้ซึ่งค่อนข้างเหมาะสำหรับเทพธิดาชั้นสูงอย่างเธอ ในเรื่องไม่มีเครื่องแต่งกายใดที่ดูฉูดฉาดเกินไป ดูหรู เรียบแต่โก้มาก นอกจากนี้เครื่องแต่งกายของซูจิน นางร้ายของเรื่องก็ทำให้เราดูออกว่าเธอเป็นคนเจ้าเล่ห์ด้วยการผสมสีเสื้อผ้าที่ทำให้ดูเย้ายวนและไร้เดียงสาในชุดเดียว

สำหรับฉากของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือดูดีงามมาก CG อาจจะลอยไปบ้างแต่ผู้เขียนชอบฉากป่าท้อมากที่สุดค่ะ เพราะทำให้เราสัมผัสเห็นถึงความสวยงามของทุ่งดอกไม้จริง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์แฟนตาซีขอบอกเลยว่า CG เรื่องนี้ไม่ได้แย่มากค่ะ มีบางฉากที่ทำได้ดีมากและส่งผลให้เกิดเอฟเฟกต์ที่สวยงามมาก หากคุณชอบเนื้อเรื่องก็สามารถเบนความน่าสนใจไปจากเอฟเฟกต์และ CG ได้ค่ะ

3. ความสัมพันธ์ของตัวละคร

ตามที่เราได้บอกไว้เรื่องนี้มีตัวละครเยอะมาก ทุกความสัมพันธ์มักจะเชื่อมต่อกันหมดทั้งเผ่าเทพ เผ่านรก และเผ่าจิ้งจอก ดังนั้นเราจึงอยากจะพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวละครหลักเท่านั้น

• ม่อเยวียนและเยี่ยหัว
  แม้ในช่วงแรกของละครเราได้เห็นว่าเยี่ยหัวและม่อเยวียนดูเหมือนกัน นั่นถูกแล้วค่ะเพราะพวกเขาเล่นโดยนักแสดงคนเดียวกันหลัง สาเหตุที่พวกเขามีความคล้ายคลึงกันเนื่องจากพวกเขาเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน แต่มีเพียงแฝดคนโตอย่างม่อเยวียนเท่านั้นที่สามารถคลอดได้อย่างปลอดภัย พ่อของเขาเลยใช้พลังอมตะครึ่งหนึ่งเพื่อสร้างดอกบัวทองคำเพื่อเป็นที่ตั้งของอนาคตแห่งสวรรค์ (เยี่ยหัว) ม่อเยวียนได้รับคำสั่งจากพ่อของพวกเขาให้ดูแลดอกบัวทองคำและหวังว่าสักวันดอกบัวนี้จะกลายร่างเป็นมนุษย์ ดอกบัวทองนั้นอยู่ในสระน้ำที่ภูเขาคุนหลุนซวีเสมอ ป๋ายเฉี่ยนในชื่อซืออินชอบที่จะดูแลมัน นั่นคือเหตุผลที่ม่อเยวียนรู้สึกว่าบางทีความรักระหว่างเยี่ยหัวและป๋ายเฉี่ยนอาจเป็นเวรกรรม ดอกบัวจะเหี่ยวเฉาเมื่อวิญญาณของม่อเยวียนดับสลายและเยี่ยหัวที่อยู่ในดอกบัวก็ได้ไปเกิดเป็นรัชทายาทแห่งสวรรค์

• ป๋ายเฉี่ยน ม่อเยวียน และ เยี่ยหัว
  ม่อเยวียนนั้นไม่ได้พูดถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อป๋ายเฉี่ยนมากนักแต่ก็มีเบาะแสค่อนข้างชัดเจนว่าเขารักเธอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ม่อเยวียนเสียสมาธิและเศร้าโศกเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับงานแต่งงานที่กำลังจะมาถึงของป๋ายเฉี่ยนกับเยี่ยหัว แต่ในตอนท้ายก็ชัดเจนเช่นกันว่า ป๋ายเฉี่ยนมองว่าม่อเยวียนเป็นเพียงแค่อาจารย์ของเธอเท่านั้น และความรู้สึกที่มีต่อเขาก็คือความรักและความกตัญญูของศิษย์ แต่ระหว่างป๋ายเฉี่ยนและเยี่ยหัวนั้นคือความรักที่โรแมนติกอย่างแท้จริง ในภพแรกเยี่ยหัวเป็นดอกบัวทองที่ติดตามซืออินอยู่เสมอ ในภพที่สองทั้งคู่ก็ได้รักกันถึงแม้เยี่ยหัวจะไม่รู้ว่าซู่ซู่ที่เขารักนั้นเป็นเทพจิ้งจอกป๋ายเฉี่ยน สำหรับภพที่ 3 เมื่อทั้งคู่ได้รู้ว่าความจริงก็ยิ่งเซอร์ไพรส์คนดูเข้าไปใหญ่เพราะป๋ายเฉี่ยนในร่างเทพก็รักเยี่ยหัวและยินยอมที่จะทำเพื่อเธอทุกอย่างแม้กระทั่งยอมแลกชีวิต

• ป๋ายเฟิ่งจิ่วและมหาเทพตงหัว
  เรื่องราวของทั้งคู่ค่อนข้างเศร้าในซีซันนี้เพราะตงหัวได้ลบชื่อของเขาออกจากหินแห่งการแต่งงานเมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นความโรแมนติกใด ๆ ที่เขามีจะอาภัพ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเลือกที่จะปล่อยป๋ายเฟิงจิ่วไปแม้ว่าเขาจะรักเธอมาก ป๋ายเฟิ่งจิ่วไม่เคยยอมแพ้ที่จะลงเอยกับมหาเทพตงหัว จึงทำให้ซีรีส์มีซีซั่นสองอย่าง สามชาติ สามภพ ลิขิตเหนือเขนย เพื่อนำเสนอเรื่องราวของทั้งสองคน

4. ซีรีส์นำเสนอเรื่องราวโรแมนติกได้อย่างเข้มข้น

ซีรีส์ได้นำเสนอเรื่องราวความรักสุดแสนจะโรแมนติกของตัวละครเยี่ยหัวและป๋ายเฉี่ยน ผู้เขียนชอบความรักที่ลึกซึ้งและไม่เปลี่ยนแปลงของเยี่ยหัวที่มีต่อป๋ายเฉี่ยนมาก มันทำให้ผู้เขียนได้รับความอบอุ่นและความสดชื่นจากการแสดง เยี่ยหัวแสดงออกว่าเขาก็รักผู้หญิงของเขาอย่างเต็มเปี่ยมและไม่กลัวที่จะบอกเธอและแสดงให้เธอเห็นว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ ผู้เขียนขอบอกเลยว่าเยี่ยหัวเป็นผู้ชายที่คลั่งรักมาก ถ้ามีแบบนี้สักคนในชีวิตก็จะดีมากค่ะคุณขา

ปกติหลายคนมักจะชื่นชอบเพลงประกอบของซีรีส์เกาหลีมาก ซึ่งผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้น ผู้เขียนขอพูดจากใจเลยว่านอกจากเพลงประกอบซีรีส์จีน Ashes Of Love แล้ว เพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ก็ดีมากไม่แพ้กัน ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะมีเพลงประกอบอยู่ไม่กี่เพลง แต่ก็เล่นได้อย่างเหมาะสมในฉากและเข้ากับอารมณ์ของเรื่อง เมื่อฟังซ้ำแล้วซ้ำอีกเราจะได้รับรู้ความรู้สึกบางอย่างของตัวละครที่ถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลง หากคุณชอบเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ คุณสามารถเปิดฟังได้ผ่าน YouTube และ Spotify โดยวางชื่อเรื่องภาษาจีนของซีรีส์ในแถบค้นหา หรือจะพิมพ์ว่า “Ten Miles of Peach Blossoms” ก็ได้ ขอบอกเลยว่าหากคุณฟังเพลงประกอบพร้อมกับฉากที่ซีรีส์ต้องการนำเสนอจะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในฤดูใบไม้ผลิอยู่ตลอด นอกจากนี้ภาพนิ่งของตัวละครช่วยขยายความรู้สึกและอารมณ์ของพวกเขาในบางช่วงเวลาด้วย

บทสุรป

สำหรับผู้เขียนแล้ว Eternal Love หรือ Ten Miles Of Peach Blossoms สมควรค่าแก่การได้รับความนิยมและเรตติ้งสูง เพราะเป็นซีรีส์ยาวไม่กี่เรื่องสามารถดูดผู้ชมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ในบางครั้งเราอาจจะเห็นช่องโหว่ของซีรีส์บ้างแต่โดยรวมแล้วมันยังคงเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าอย่างดีถึงความรักและการเสียสละ เรื่องราวของคู่หลักนั้นไม่สามารถคาดเดาได้อย่างที่คิดเพราะคุณจะต้องเดาว่าม่อเยวียนเกี่ยวข้องกับเยี่ยหัวอย่างไรเนื่องจากพวกเขาดูคล้ายกันมาก

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างม่อเยวียนและซืออินยังคลุมเครือในช่วงที่แรกของซีรีส์เรื่องนี้ และเมื่อเยี่ยหัวปรากฏตัวในภายหลังจะมีความรู้สึกลึกลับที่พวกเขาเชื่อมโยงกันอีกครั้งในฐานะคู่รัก ในฐานะผู้ชมสิ่งนี้จะสร้างความตื่นเต้นและความอยากรู้อยากเห็นซึ่งมีซีรีส์ไม่มากนักที่ทำแบบนี้ได้ โดยพื้นฐานแล้วทีมผู้ผลิตได้จัดการเรื่องราวที่ดี สร้างฉากอารมณ์และจังหวะที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดผู้ชมในขณะที่พล็อตดำเนินไป