ซีรีส์เรื่อง “Dr. John” เป็นซีรีส์ที่ออกอากาศทางสถานี SBS ในช่วงกรกฎาคม – กันยายน 2019 เคยมีคนรีวิวซีรีส์เรื่องนี้ไว้แล้ว เป็นรีวิวที่หยิบประเด็นการุณยฆาต ขึ้นมาตีแผ่ ดังนั้นในรีวิวนี้จะพูดถึงเรื่องโดยรวมของการดำเนินเรื่องและตัวละครก็แล้วกันนะ จะได้มองเรื่องจากมุมต่าง ๆ กัน

ชาโยฮันเป็นวิสัญญีแพทย์ เขาถูกตัดสินจำคุกเนื่องจากให้ยาลดความเจ็บปวดเกินขนาดแก่ผู้ป่วยจนผู้ป่วยตาย ในขณะที่เขาติดคุกเขาได้เจอกับคังชียอง แพทย์ศึกษาเฉพาะทางปี 2 ที่เข้ามาทำงานพาร์ทไทม์เป็นแพทย์ประจำเรือนจำที่โยฮันถูกคุมขังอยู่ ด้วยทักษะและความรู้อันโดดเด่นของโยฮัน ทำให้ชียองสะดุดใจกับเขามาก

ชาโยฮันถูกจำคุกอยู่ 3 ปี เมื่อถูกปล่อยตัวออกมา เขาได้รับการทาบทามจากศูนย์การแพทย์ฮันเซให้มาเป็นอาจารย์หมอ เขาจึงได้เจอกับชียองอีกครั้งที่นี่ ในฐานะอาจารย์หมอและแพทย์ฝึกหัด โยฮันต้องฝ่าฟันกับคำพิพากษาจากสังคมที่เห็นว่าการการุณยฆาตของเขาไม่ต่างจากการฆาตกรรม ส่วนชียังก็มีแผลในใจที่เชื่อว่าตัวเองมีส่วนทำให้พ่อต้องทุกข์ทรมาน เนื่องจากชียังเป็นผู้ตัดสินใจหยุดการทำ CPR ให้กับพ่อของเธอตอนประสบอุบัติเหตุ

เรื่องนี้มีพล็อตเรื่องที่โดดเด่นจากซีรีส์การแพทย์ทั่วไป เนื่องจากหยิบยกประเด็นเรื่องการรุณยฆาตมาถก ซึ่งไม่มีข้อสรุปและยังเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมจนถึงทุกวันนี้ว่าการุณยฆาตเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูกกันแน่ นอกจากนั้นเนื้อเรื่องยังน่าติดตามเพราะเป็นการชูเรื่องวิสัญญีแพทย์เป็นหลัก ทั้ง ๆ ที่ซีรีส์การแพทย์ส่วนใหญ่จะโฟกัสเรื่องแพทย์เกี่ยวกับ หัวใจ สมอง หรือศัลยกรรม แทบไม่มีเรื่องในโฟกัสเรื่องวิสัญญีแพทย์เลย จึงถือว่า Dr. John ได้หยิบยกประเด็นที่แปลกแหวกแนวขึ้นมาเล่า

Dr. John ไม่ถือว่าเป็นซีรีส์แพทย์ที่ดีที่สุด แต่ก็นับว่าเป็นหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องที่โดดเด่น เพราะมีเคสการรักษาที่แปลกออกไปจากเคสทั่ว ๆ ไปที่เห็นบ่อย ๆ ในซีรีส์เกี่ยวกับหมอ ขนาดตัวพระเอก เจ้าของชื่อเรื่องเอง ยังป่วยเป็นโรคแปลก ๆ เพราะเขาไม่สามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้ บางคนอาจจะคิดว่าดีเสียอีก เป็นอะไรก็ไม่เจ็บ แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวมาก เพราะการที่คนเรารู้สึกเจ็บ นั่นหมายถึงเรารู้ว่าร่างกายเราผิดปรกติ ในขณะที่หากเราไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย เมื่อร่างกายเราไม่ไหว เราอาจจะตายไปเองดื้อ ๆ เลย นึกภาพว่าถ้าเกิดเราไส้ติ่งแตก แต่ไม่รู้สึกเจ็บดูสิ คือ มันจะแตกแล้วเน่าไปเลยในท้องและก็ตายไปเลยนะตัวเอง ไม่ดีหรอก

พล็อตเรื่องรองลงมาคือเรื่องความรักของพระ – นาง ซึ่งเอาตรง ๆ นะ ไม่ค่อยมีความน่าสนใจ และไม่มีเสน่ห์ในตัวเท่าไหร่ พูดง่าย ๆ เคมีของพระ – นางไม่แรงมากนัก ครึ่งหลังของซีรีส์เริ่มโฟกัสเรื่องความรัก ความสนุกในเนื้อเรื่องเลยเนือยๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังพอถูไถ ดูได้อยู่ แต่ดำเนินเรื่องรับตามตำราซีรีส์เกาหลีเลย คือ ต้องรักกัน จากนั้นจากเข้าสู่สเตปการพรากจากกัน แล้วกลับมาเจอกันใหม่ แล้วจบด้วยแฮปปี้เอนดิ้ง เหมือนผลัก ๆ เรื่องรักให้มาเข้าในเนื้อเรื่องยังไงไม่รู้

การดำเนินเรื่องถือว่าผูกเรื่องได้ดีเลยทีเดียว คือไม่มีการโฟกัสเคสต่อเคสนะ เมื่อเริ่มมีเคสแรก บางทีก็แทรกเคสที่สองมากลาง ๆ เคสแรกเลย ทำให้เนื้อเรื่องมันเกี่ยวพันกันไปเรื่อย ๆ น่าติดตามชมยิ่ง แถมนักแสดงรับเชิญในแต่ละเคสก็แสดงได้ดีเยี่ยมด้วย ตัวอย่างเคสแชมเปี้ยนศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ได้ คิมยองกู นักแสดงจากเรื่อง Stove League มาเล่น คิยองกูจับอารมณ์ของนักกีฬาที่ยอมตายดีกว่าต้องมาทุกข์ทรมานเพราะไม่ได้ต่อสู้อีกต่อไปได้ดีมาก มีความหยิ่ง แต่ใจลึก ๆ คือกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้เล่นกีฬาที่รักต่อ

เอาจริง ๆ นี่ว่าบทไม่ค่อยแน่นนะ ดูแล้วคนเขียน คิมจีอุน ไม่ค่อยมีประสบการณ์เขียนเรื่องให้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ผลงานที่ผ่านมาคือ Hyde, Jekyll, Me และ Cheongdamdong Alice ก็ไม่ค่อยถูกใจเหล่าผู้ชม คือเกริ่นเรื่องดี ประเด็นที่จะเอามาเล่าก็น่าสนใจ แต่พอเอามาเขียนจริง ๆ บทหลวม ดีที่ว่าผู้กำกับ ตัดต่อ ดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างดี ผู้กำกับโจซูวอน เคยกำกับเรื่องเด่น ๆ อย่าง Pinocchio, Thirty But Seventeen, I Hear Your Voice และ Gap Dong มาแล้ว (แถมยังเคยร่วมงานกับคนนักเขียนคิมจีอุนจาก Cheongdamdong Alice อีกด้วย) มีประสบการณ์หลายแนว เลยเอาอยู่ทั้งด้านความระทึก และน่าติดตาม ไปดึงความน่าติดตามให้น้อยลงหน่อยตรงประเด็นความรัก แต่นั่นมีหลายปัจจัย ทั้งบทโรมานซ์อ่อน คนแสดงเคมีไม่เข้ากันด้วย เลยไม่น่าติดตามเท่าไหร่

Characters

ชาโยฮัน แสดงโดย จีซอง วิสัญญีแพทย์ฉายา “คุณหมอ 10 วิ” เพราะเขาดูอาการคนไข้แค่ 10 วินาทีก็วินิจฉัยได้เลยว่าป่วยเป็นโรคอะไร เทพมาก คนชอบนึกว่าชื่อ “โยฮัน” (มาจากภาษาอังกฤษคือ John) คือชื่อตามศาสนาคริสต์ของเขา แต่ความจริงแล้ว พ่อของเขาตั้งชื่อให้ว่า “โยฮัน” ที่มาจาก “โย” ‘요’ แปลว่า การรักษา และ “ฮัน” ‘한’ ที่แปลว่า เพลิดเพลิน เป็นที่มาของชื่อซีรีส์เรื่อง “คุณหมอโยฮัน”

จีซองเล่นเรื่องนี้ดีอีกแล้ว ตีบทแตกมาก พอเปิดดูตอนแรกให้ความรู้สึกเหมือนดูเรื่อง Defendant ที่เขาแสดงเป็นนักโทษ บวกกับเรื่อง New Heart ที่เขาแสดงเป็นหมอเลย จีซองแสดงละครดัง ๆ ดี ๆ มาแล้วเยอะมาก เป็นพระเอกที่ไม่ได้ดังเพราะหน้าตาดีนะ แต่ดังเพราะเล่นเรื่องไหนคนดูก็อินไปเสียทุกเรื่อง เล่นเป็นคนซื่อ ๆ ก็ดูซื่อจนบื้อ เล่นเป็นคนฉลาดก็ดูหลักแหลมสุด ๆ สรุป ฝีมือเขาดี ตีบทกระจุยอยู่แล้ว

คังชียอง แสดงโดย อีเซยอง แพทย์ศึกษาเฉพาะทางปีสอง ที่ต้องหยุดทำงานไปเป็นปีเพราะมีปมเรื่องช่วยชีวิตพ่อไม่ได้ พ่อนอนเป็นผักอยู่ในโรงพยาบาล รอถอดเครื่องช่วยหายใจ แม่นางเป็นหมอตำแหน่งใหญ่โตอยู่ในศูนย์การแพทย์ฮันเซ คนจึงมักจะคิดว่านางไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้น ที่ไหนได้ นางมีเรื่องให้กังวลมากกว่าที่ใคร ๆ คิด

อีเซยองเป็นดาราเด็กน้อยที่เติบโตมาในวงการบันเทิงนี่แหละ นางแสดงมาแล้วหลายเรื่องมาก ๆ ที่เด่น ๆ ก็เรื่องแดจังกึม แสดงเป็น ชัวกึมยอง คู่แข่งแดจังกึมตอนเด็ก ๆ ส่วนตอนนางโตนี่นางมาเด่นตอนเล่นเป็นสาวซอมบี้ใน A Korean Odyssey จากนั้นก็ไต่มาเป็นนางเอก ความจริงฝีมือนางดีนะ เพียงแต่เคมีนางกับจีซองในเรื่องยังไม่มากเท่าที่ควร ทำให้โรมานซ์ระหว่างพระ – นาง ไม่ค่อยน่าลุ้นเท่าไหร่

ซนซุกกี แสดงโดย อีคยูฮยอง อัยการหนุ่มที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ใกล้ตายแล้วแหละ แต่ก็ยังพยายามจับตาพระเอกอยู่ เพราะเชื่อว่าพระเอกต้องทำการุณยฆาตอีกเป็นแน่ บทในเรื่องครึ่งแรกไม่ค่อยเด่นนะ มีซีนนับครั้งได้เลย แต่ครึ่งหลังบทจะเริ่มเด่นขึ้น

คยูฮยองแสดงได้ดีมากอีกแล้ว พอถ่าย Dr. John จบ เขามีซีรีส์เรื่อง Hi Bye, Mama! ต่อเลย ขึ้นแท่นเป็นพระเอกด้วย แต่เรื่องนั้นคงไม่ดู ไม่ใช่แนว เรื่องก่อนหน้านี้ของคยูฮยองที่แสดงได้ดีมาก ๆ

สรุปคะแนน : 7.5/10 ตอนแรกติดมาก ดีมาก แหวกจากซีรีส์แพทย์ทั่วไป พอตอนหลังหนักโรมานซ์ไปหน่อย ซึ่งเป็นโรมานซ์ที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เลยไม่ค่อยอินมากนัก แต่ก็ยังถือว่าเป็นซีรีส์ที่ดี น่าดูอยู่ ดูได้ ไม่ผิด