รีวิวหนัง ซีรี่ย์ VIU หนังดี หนังดัง ซีรี่ย์สนุกมากมาย

รีวิวHospital Playlist เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (2020)

Hospital Playlist
รีวิวจัดเต็ม  Hospital Playlist เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (2020)  "ละมุนอบอุ่นใจ กับมุมใหม่ของซีรีส์การแพทย์ ที่งดงาม เชิดชู และเป็นมนุษย์"

Series Full Review : Hospital Playlist : เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์

ละมุนอบอุ่นใจในมุมต่างของซีรีส์การแพทย์  ในความสวยงามของโลก  ความงดงามของอาชีพ  เชิดชู  และมีความเป็นมนุษย์กว่าที่เคย

Hospital Playlist

NETFLIX : Season 1 12 Episodes (2020)

เชื่อเหลือเกินว่าคนชอบดูหนังดูซีรีส์จะต้องมีบ้างที่มักจะมองข้ามหนังหรือซีรีส์บางเรื่องไปด้วยเหตุผลของใครก็ของมันและดูไปบ่นไปก็ไม่ต่างกัน  เมื่อบางครั้งเลื่อนผ่านหรือมองข้ามงานหนังหรือซีรีส์บางเรื่องไปด้วยเหตุผลส่วนตัว  แต่เมื่อได้ดูโดยลืมเหตุผลที่ว่านั้นไปก็กลายเป็นว่าไปอยู่ไหนมาเพิ่งได้ดู ซึ่งซีรีส์แนวการแพทย์คือทางที่มักจะถูกมองผ่าน เพราะไม่ค่อยอยากเห็นภาพการผ่าตัดหรือการรักษาโรคที่น่าหดหู่  ยิ่งช่วงที่ผู้เขียนกำลังป่วยด้วยแล้วยิ่งไม่อยากเข้าไปกันใหญ่เลยกลายเป็นว่าซีรีส์การแพทย์นั้นเว้นได้ก็ละไว้ก่อนแล้วค่อยมาดูทีหลัง  เช่นเดียวกับซีรีส์เรื่องนี้ที่มีเสียงชื่นชมปากต่อปากว่าดีและผู้เขียนก็ตั้งไว้ใน My List ได้เป็นปีแล้วแต่ไม่ยอมเปิดดูสักทีเพราะเหตุผลข้างต้น

ทว่า เมื่อต้องมารับรู้ว่าเรื่องที่ดองไว้กำลังจะมีซีซันสอง ซึ่งก็คือมันต้องมีดีพอที่จะทำให้สตูดิโอสานต่อมาได้จึงตัดสินใจดูจนได้เพื่อพิสูจน์ว่า  การที่ต้องมีซีซันสองเป็นเพราะสาเหตุไหน  และระหว่างทางที่ผ่านสิ่งที่ได้คืออารมณ์ที่หลากหลาย  สัมผัสถึงมิตรภาพที่ละมุนละไมผ่านการเล่าเรื่องที่มอบหมอที่เป็นหมอจริงๆที่เป็นมนุษย์ เพราะแม้จะเป็นหมออย่างน้อยพวกเขาก็ยังต้องมีชีวิตในฐานะมนุษย์  ซึ่งมันลงตัวในทุกมิติถ้าไม่นับตอนจบของซีซันนี้ที่ปล่อยปลายให้ไปต่อ  จนกระทั่งถ้าไม่ได้ข่าวว่ามีการสร้างซีซันสองอาจมีอาการหงุดหงิดหลังดูจบ  และในที่สุดก็ต้องมานั่งรำพึงกับตัวเองว่า “ทำไม่พึ่งมาดูเอาตอนนี้”Hospital Playlist

Hospital Playlist

เรื่องย่อ

ที่โรงพยาบาลยุลเจกำลังจะมีการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่  เมื่อประธานของโรงพยาบาลลาโลกไปการหาทายาทผู้จะมาบริหารโรงพยาบาลในภาพรวมก็เริ่มขึ้น  ทว่าตัวประธานเองที่มีลูกหญิงชายห้าคนที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี  และคาดว่าคงเลี้ยงตามหลักศาสนาที่ครอบครัวท่านนับถือพระเจ้าเลยมองเห็นความดีงามนั้น จึงรับบุตรธิดาของประธานไปเป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้าเมื่อบุตรสองคนเดินเข้าสู่การเป็นบาทหลวง  และธิดาสองนางเดินเข้าสู่การเป็นแม่ชีในคริสต์ศาสนาภาระทั้งหมดจึงตกอยู่ที่บุตรคนเล็กที่เป็นกุมารศัลยแพทย์ในโรงพยาบาลอื่นคือคุณหมออันจองวอน (ยูยอนซอก) ที่รู้ตัวเองว่าไม่มีความสามารถในการบริหารแต่มีความสามารถในการช่วยชีวิตเด็กๆในฐานะหมอมากกว่า

เขาจึงยกหน้าที่บริหารให้กับผู้จัดการโรงพยาบาลที่เป็นเพื่อนตั้งแต่เยาว์วัยของแม่แต่มีข้อแม้ว่า  เขาจะรวมทีมแพทย์เฉพาะทางมาอีกนอกจากเขาคือหนึ่งหมอแชซงฮวา (จอนมีโด) ศัลยแพทย์ประสาท  สองคือหมออีอิกจุน (โจจองซอก) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการปลูกถ่ายอวัยวะ  สามคือคุณหมอคิมจุนวาน (จองคยองโฮ) ศัลยแพทย์ทรวงอก  และสุดท้าย หมอยางซอกฮยอง (คิมแดมยอง) สูตินรีแพทย์  รวมทีม Avengers เพื่อดูแลคนไข้รวมถึงวอร์ด VIP ที่มีวัตถุประสงค์บางอย่างของหมออันจองวอนและทั้งห้าคนก็คือเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแพทย์

การรวมตัวกันในโรงพยาบาลเดียวกันจึงเหมือนการคืนสู่เหย้าที่อาจเป็นไปได้ยาก  แต่เมื่อได้มารวมกันแล้วสิ่งที่ตามมาคือมองเห็นมิตรภาพที่งดงามของเพื่อนสนิทอยู่เบื้องหลังการทำหน้าที่แพทย์ผู้มีจรรยาบรรณ  และความงดงามของอาชีพทางการแพทย์ผ่านการช่วยชีวิตผู้ป่วย  และการรักษาผู้ป่วยด้วยความใส่ใจตามบุคลิกของคุณหมอแต่ละคนที่แตกต่าง  และทำให้ภาพของแพทย์และพยาบาลออกมาในมุมของการเชิดชูกลายๆ  แต่…ทุกเรื่องรายทางแม้จะมีบ้างที่ต้องสูญเสียไม่ใช่จะจบลงสวยงามทุกเรื่อง  แต่นั่นก็คือความจริงของชีวิตที่ทำให้งานที่ไม่มีพระเอกไม่ตัวตัวร้ายไม่มีดราม่าเป็นนิยาย  กลายเป็นความธรรมดาสามัญที่คนดูสัมผัสได้ด้วยใจตลอดทาง

Hospital Playlist

ความหลากหลายของมิติทางอารมณ์มาพร้อมความเป็นมนุษย์ของเหล่าคุณหมอ

การร่วมมือกันอีกครั้งของผู้เขียนบทอีอูจองและผู้กำกับชินวอนโฮจากซีรีส์ตระกูล Reply จึงสัมผัสได้ถึงลายเซ็นที่เข้มจนเป็นตัวหนา  การเล่าเรื่องของมิตรภาพระหว่างเพื่อนโดยมีเพื่อนสาวเป็นจุดศูนย์กลาง  เล่าผ่านเหตุการณ์รายทางที่เยอะแต่ทุกเรื่องก็เป็นเรื่องที่เป็นปัจเจกสามัญที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้  คือเรื่องที่เป็นความจริงในโลกทำให้เรื่องไม่ออกไปโทนนิยาย  หรืออาจรวมงานอย่าง Prison Playbook ไปด้วยก็ย่อมได้  เมื่อลายเซ็นผู้กำกับชัดจนมองเห็นการเล่าเรื่องย่อยให้สัมพันธ์กันในภาพใหญ่  แล้วไม่ว่าจะดึงอารมณ์ความสงสัยในใจผู้ชมไปในทางไหนบทสรุปก็จะออกมามีความเป็นมนุษย์เสมอ

และสิ่งเหล่านั้นเองได้สร้างซีรีส์ทางการแพทย์ที่ดูสมจริง  ได้มอบหมอที่เป็นมนุษย์หาใช่หมออัจฉริยะหรือซูเปอร์ด็อกเตอร์แต่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่เจ็บได้ร้องให้เป็น  มีหัวใจ  มีความรัก  มีเส้นแบ่งระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว  มีเหน็ดเหนื่อย  มีกินข้าวกินเหล้าเมาแล้วเรื้อน  มีชีวิตส่วนตัวที่ต้องแลก  และสิ่งที่คุมให้บทไม่ล้นไปจนเกินจริงก็คือความเป็นมนุษย์เหล่านี้  เมื่อทุกการรักษาทุกอาการป่วยล้วนเป็นอาการป่วยทั่วไปไม่มีโรคพิสดาร  และเมื่อเป็นเรื่องของการรักษาผู้ป่วยที่หลากหลายทุกเพศทุกวัย  อารมณ์จึงออกมาหลากหลายตามนั้นเพราะเห็นชัดเจนในเบื้องหลังของการป่วยที่กระทบจิตใจผู้ป่วยเองและญาติ  ส่วนการรักษาจะออกมายังไงนั้นล้วนแต่สะเทือนหัวใจของคนดูในทุกเรื่อง

Hospital Playlist

และเช่นเดิมที่คนดูจะสัมผัสมิติไหนได้มากกว่ากันก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ชีวิตแต่อย่างน้อยต้องมีสักเรื่องที่โดนใจ  เพราะเรื่องเล่าครบทุกมุมและทุกมุมล้วนมีพื้นฐานจากความรักและความเสียสละ  ทั้งในมุมของสามีภรรยา  คู่รักคู่ชีวิต  มุมของพ่อแม่ที่มีต่อลูก  หรือกระทั่งมุมของลูกที่มีต่อพ่อแม่  และแน่นอนมุมของมิตรภาพความเป็นเพื่อนที่ยั่งยืน  ซึ่งหลายครั้งอาจมองดูว่าเป็นการเชิดชูความงดงามของอาชีพแพทย์ที่ต้องมีทั้งหัวใจและจรรยาบรรณ  หรือบางทีบทสรุปในเรื่องย่อยส่วนใหญ่ออกมาในมุมที่โลกสวยแต่บทยังดีพอที่จะคุมไว้ได้ไม่ให้ดูจงใจ  เพราะยังมีภาพบางอย่างฉายให้เห็นว่าในดีมีแย่เมื่อมีหมอดีก็มีหมอที่แย่เช่นกัน

และสัจธรรมคือแม้หมอจะเก่งปานใดก็ใช่ว่าจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ทุกคน  และคนที่ต้องก้าวข้ามให้ได้นอกจากญาติผู้ป่วยก็คือตัวหมอเอง  จึงมอบหมอที่ดูเป็นมนุษย์ธรรมดาที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ดูมา  ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยที่มีความหมายเหล่านี้เป็นลายเซ็นที่สัมผัสได้กับการมอบความอบอุ่นหัวใจให้คนดูของผู้กำกับ  ด้วยรายละเอียดที่เก็บได้หมดทุกประเด็นและมีตอนจบที่ทรงคุณค่าแม้จะเปิดปลายให้ได้คิดต่อ  แต่เมื่อมีการมาของซีซันต่อไปก็หมายถึงว่าที่ต้องคิดต่อก็ได้มาบอกเล่าอีกครั้ง  และกลายเป็นการมอบคุณค่าของชีวิต  ความงดงามของการมอบชีวิตใหม่ให้ทั้งผู้ป่วยและคนดูที่สัมผัสได้ในทุกเรื่องราว

Hospital Playlist

มิติความสัมพันธ์ที่หลากหลายและมีพัฒนาการ

เมื่อเลือกจะเล่าความเป็นมนุษย์ปุถุชนที่สวมชุดกาวน์แล้วพฤติกรรมทั้งภายนอกและภายในจึงต้องเห็นความเป็นมนุษย์  เมื่อความสัมพันธ์ของแต่ละคนที่มีบุคลิกที่แตกต่างล้วนถูกเล่าอย่างมีพัฒนาการ  ทั้งตัวแชซงฮวาที่เป็นอาจารย์ใจดีต่อแพทย์ประจำบ้านและแพทย์ฝึกหัด  ความน่ารักสดใสและไลฟ์สไตล์ต้องใจลูกน้องแต่บทก็ฉลาดเลือกจะไม่เล่าให้ไปทางโรแมนติกเมื่อหัวใจบอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่และก็ไม่ต้องไปเหนือจริงขนาดมารักกันตอนปลาย  เช่นเดียวกับเรื่องของยางซอกฮยอนสูตินรีแพทย์ที่เหมือนเป็นคนหนีสังคมไร้หัวใจแต่เขามีปมเรื่องครอบครัวทำให้หัวใจไม่ยอมรับบางเรื่อง  ทั้งที่รู้ว่าหมอรุ่นน้องมีใจให้และตัวเองก็อาจมีใจแค่ยังไม่กล้าพอที่จะเริ่มความสัมพันธ์

คิมจุนวานหมอที่ดูตรงไปตรงมาและเหมือนไม่แคร์ใครแต่ข้างในนั้นกลับอ่อนไหวอ่อนโยนที่มีความรักกับน้องสาวเพื่อนแต่ต้องปกปิด  และกำแพงบางอย่างก็ไม่สามารถทำอะไรให้เต็มที่  หรือชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวของอีอิกจุนที่ทำให้เขาต้องเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเต็มเวลา  และเห็นสายตาที่มีอะไรบางอย่างกับแชซงฮวาอยู่เสมอแต่ก็ต้องเก็บมันไว้ในใจ อันจองวอนผู้จิตใจดีและมอบหัวใจให้การรักษาคนไข้และพระเจ้า  แต่ความรักที่บริสุทธิ์ที่ได้รับจากหมอรุ่นน้องก็สั่นหัวใจจนถึงที่สุดก็เลือกจะทำตามความรู้สึกตนเอง  และด้วยความที่มากตัวละครมากมิติ  แต่ความสัมพันธ์เหล่านี้ได้ถูกบอกเล่าอย่างละเมียด  มีพัฒนาการที่มองเห็นการก่อตัวของความสัมพันธ์และความรู้สึกนั้นๆของแต่ละคนได้อย่างเป็นรูปธรรม

ความฉลาดคือการเลือกไม่โรแมนติกจนดูล้น เพราะการเสนอความเป็นปุถุชนที่ทุกคนต้องมีความคิด  มีการตัดสินใจ  มีปมอะไรบางอย่างในใจต่างกัน  ซึ่งเรื่องเหล่านี้ได้ถูกเล่าผ่านตัวละครรายทางได้อย่างลงตัว  เมื่อทุกตัวละครสมทบทั้งเล็กน้อยหรือรับเชิญที่มาสัมผัสกับตัวละครหลักทั้งห้าต้องมีส่วนร่วมกับความคิดและความในใจของทุกคน  ทั้งนี้ยังเยี่ยมมากในการย้อนภาพไปเล่าถึงความสัมพันธ์ตั้งแต่เริ่มต้นของหมอทั้งห้าที่มองเห็นได้ชัดว่าทำไมถึงสนิทกันปานนี้  และการสื่อความชิดเชื้อกันเชิงสัญลักษณ์ก็ต้องมีคือการเล่นดนตรีที่เข้าขาเพราะการจะเป็นวงดนตรีที่เข้ากันได้ขนาดนี้ต้องเล่นร่วมกันและผ่านอะไรร่วมกันมามากขนาดไหน  แม้ว่าเสียงร้องของใครบางคนอาจเป็นฝันร้ายทั้งที่กินไข่สดเข้าไปก็ตาม

Hospital Playlist

โลกนี้จะมีคนอยู่สามประเภท

หนึ่งคือคนที่มีความสุขที่สุดเวลาได้กินของอร่อย กับอีกหนึ่งคือคนที่อาหารอร่อยที่สุดเวลากินคนเดียว และสุดท้ายคนที่เห็นคนอื่นกินอย่างมีความสุขแล้วตัวเองยิ่งมีความสุข ซึ่งเมื่อมองเข้าไปในความเป็นมนุษย์บนโลกคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเช่นนี้  และคนทั้งสามประเภทนี้ก็คือความต่างที่จะกำหนดความเป็นตัวตนของแต่ละคน  ซึ่งไม่ว่าเรื่องไหนก็ล้วนแต่มีด้านที่ต่างกันของเหรียญ  แต่เมื่อเลือกที่จะเล่าในมุมที่งดงามและเชิดชูแล้วก็เล่าออกมาในมุมที่สวยงามดีกว่า  และมันก็เป็นไปตามนั้นเมื่อคนที่มีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นมีความสุขคือคนที่รวบรวมทีมหมอที่ทั้งเก่งและมีความงดงามข้างในทั้งหมดมารวมกัน  เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนๆของเขาเป็นเช่นไร

แต่การจะหลอมรวมความต่างของแต่ละคนนั้นอาจเป็นเรื่องยาก  จึงต้องมีคนที่เป็นจุดเชื่อมและเป็นตัวประสานนั่นก็คือเพื่อนหญิงเพียงหนึ่งเดียวที่มองเห็นความงดงามของชีวิตในทุกมิติ  ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่ผู้ชมจะมองเห็นความหม่นในตัวของแชซงฮวา ทั้งที่ความจริงเธอก็ได้ผ่านประสบการณ์ที่แย่ๆมาในการเริ่มความเป็นหมอ  แต่เธอก้าวข้ามมาได้คนดูจึงไม่ได้เห็นความเจ็บปวดเมื่อสูญเสีย  หรือความลิงโลดเมื่อการรักษาประสบผลจากแชซงฮวา ซึ่งหมายความว่าแชซงฮวาคือคนที่มองโลกในภาพความจริงที่สวยงามที่สุดในหมู่เพื่อน  เมื่อในวันหยุดเธอเลือกที่จะอยู่กับธรรมชาติ  และเธอคือคนที่มองเห็นบุคลิกของมนุษย์สามอย่างในตัวเพื่อนๆ

แชซงฮวาจึงคล้ายเป็นจุดร่วมของความต่างเป็นเสาหลักของความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของคนทั้งห้า  และทุกความสัมพันธ์ที่แนบแน่นย่อมต้องมีคนประมาณนี้  คนที่เข้าใจในความต่างเข้าใจบุคลิกของเพื่อนแต่ละคนและเป็นศูนย์รวมจิตใจ  รองลงมาคือคนที่เห็นความสุขของคนอื่นคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ของตนเอง  คนประเภทนี้จะเป็นที่รักของเพื่อนๆที่ไม่ว่าจะมองย้อนกลับไปยังอดีตที่ผ่านมาไม่ว่านานหรือไม่แค่ไหน  ในกลุ่มเพื่อนสนิทในชีวิตมักจะมีคนสามประเภทนี้อยู่และจะมีคนสองคนอย่างแชซงฮวาและอันจองวอนอยู่เสมอ  คนที่ไม่เคยโกรธ  ไม่เคยล่วงเกินเพื่อนไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่  คนที่ให้เกียรติเพื่อนเสมอมา  คนที่นอกจากจะเป็นที่รักของเพื่อนและคนรอบข้างแล้วยังเป็นที่รักของคนดูทั้งใจ

Hospital Playlist

ตัวละครที่ผู้ชมต้องรักและการแสดงที่เปี่ยมเสน่ห์ทุกคน

เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าบทแชซองฮวาของจอนมีโดเป็นแกนกลาง  และถูกขับเคลื่อนโดยบทอันจองวอนของยูยอนซอก แต่คือแม้จะเป็นเช่นนั้นบทก็บริหารจัดการตัวละครทุกคนได้อย่างลงตัวเท่าเทียมตามบทบาท  ทำให้ตัวละครทุกคนในเรื่องเป็นที่รักของคนดูด้วยบทและธงของเรื่องที่จะเสนอความเป็นมนุษย์ในอาชีพแพทย์  การแสดงจึงต้องไม่หลุดไปจากความเป็นมนุษย์  ซึ่งทุกคนให้การแสดงที่ต้องจดจำและเปี่ยมเสน่ห์   เพราะทุกคนล้วนมีคาแร็คเตอร์และหน้าที่รับผิดชอบต่อเรื่องต่างกัน  และเสน่ห์ที่มอบให้คนดูก็ทำให้ฉากแดนซ์กระจายในโบสถ์กลายเป็นฉากที่ต้องติดอยู่ในความทรงจำ  หรือฉากนั่งกินข้าวคุยกันธรรมดาที่ไม่รู้สึกเหมือนว่านี่คือการแสดง

ถึงขนาดต้องสารภาพว่าผู้เขียนไม่เคยรู้สึกถูกชะตากับโจจองซอกขนาดนี้มาก่อนจากการดูเขาแสดงเรื่องก่อนหน้า  แม้กระทั่งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะหรืออารมณ์หม่นหมองเจ็บปวดที่มองเห็นเลยว่ามาจากข้างใน  มาจากความรู้สึกข้างในจริงๆไม่มีเห็นแววของการเสแสร้งหรือจงใจ  จึงเป็นเสน่ห์ที่น่าทึ่งที่นักแสดงหลักตั้งห้าคนทำให้ผู้ชมเชื่อหมดทั้งใจ  ด้วยการแสดงรับส่งกันได้อย่างไหลลื่นและเป็นธรรมชาติทำให้มนุษย์ที่ต้องพบหมอบ่อยๆอย่างผู้เขียนรู้สึกว่า  หากมีหมอแบบนี้ทุกคนการไปโรงพยาบาลอาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำใจล่วงหน้า  ส่วนความเห็นส่วนตัวนั้นยอมรับว่าทั้งห้าคนมอบการแสดงในระดับท็อป

ซึ่งความจริงก็อาจเป็นมาตรฐานของเกาหลีอยู่แล้ว  แต่การจะเข้าไปนั่งใจใจคนดูเต็มที่นั้นไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้  และมันจะยิ่งยากถ้าจะเข้าไปนั่งในใจคนดูได้ทั้งห้าคน  ด้วยงานด้านภาพที่พยายามเลี่ยงภาพการผ่าตัดที่อาจไม่โสภานัก  ภาพที่ออกมาสวยสื่อถึงความงดงามของจิตใจ  งานเพลงประกอบที่เพราะทุกเพลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพลงนั้นๆมอบอารมณ์คิดถึงเพื่อนๆเมื่อมีการซ้อมวงกัน  ที่จะทำให้หัวใจคนดูได้คิดถึงอะไรต่อมิอะไรที่เคยทำกับเพื่อนๆ  วีรกรรมวีรเวรที่มีประสบการณ์ร่วมกัน  ด้วยบทเรียนชีวิตที่สัมผัสใจในทุกเรื่องราว  และทางออกของทุกเรื่องราวนั้นเป็นทางสว่างไม่ต่างจากแสงแดดอ่อนในตอนเช้าแห่งฤดูหนาวที่ “อบอุ่นหัวใจเหลือเกิน”

Hospital Playlist

เรื่องนี้ได้จัดการหัวใจคนดูไว้อย่างอยู่หมัด ทั้งปลาบปลื้มยินดีเมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษา  น้ำตาเอ่อด้วยความตื้นตัน  สะท้านใจกับความสูญเสียที่ไม่มีปาฏิหาริย์  หรือมิติด้านความรัก  มิตรภาพ  เรื่องหัวใจที่ยังคงมีแม้จะไร้เวลาส่วนตัว  ประเด็นทางครอบครัวที่มีผลต่อจิตใจ  สิ่งเหล่านี้คือเครื่องปรุงรสล้ำที่ช่วยให้อาหารจานธรรมดานี้ออกมาละมุนลิ้น  อาจไม่จัดจ้านเพราะไม่มีตัวร้ายตัวโกงแต่ชดเชยด้วยความจริงแท้ที่ทุกคนสัมผัสได้  อารมณ์ประมาณนี้อาจมีบ้างที่ดูไปก็คิดไปถึงงานซีรีส์ตระกูล Reply ที่มีกลิ่นและอารมณ์ที่ใกล้เคียง แถมยังมีนักแสดงรับเชิญที่มีสีสันโดยเฉพาะโกอาราที่มารับเชิญแต่เคมีลงตัวกับโจจองซอกอย่างเนียนๆ

แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องของอาการเจ็บป่วยที่อาจไม่น่าจะเริงใจ  แต่เมื่อได้ดูแล้วได้เห็นและได้สัมผัสผู้ป่วยมากหน้าหลากหลายอาการ  แต่ทุกครั้งทางออกก็จะเป็นการเยียวยาหัวใจให้กับผู้ชมทุกทาง  จึงทำให้เรื่องนี้เป็นงานดีที่ดูด้วยรอยยิ้มปนเสียงหัวเราะที่อาจมีเคล้าคราบน้ำตาบ้างบางครั้งแต่ไม่มีความหม่นในใจ  มีตัวละครที่เป็นที่รัก  จึงเป็นงานที่คู่ควรกับการยกไว้บนหิ้งของความทรงจำอีกเรื่องหนึ่ง  และนี่คือสิบสองตอนที่เป็นคุณค่าที่คู่ควรอย่างไม่ต้องสงสัย